ครม.เคาะมาตรการภาษี หนุนเที่ยวเมืองรอง-สั่งจัดเฟสติวัลกระตุ้นเศรษฐกิจ
ครม.เห็นชอบมาตรการทางภาษีสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรองช่วงโลว์ซีซั่นเดือน พ.ค.- พ.ย. พร้อมสั่งจัดเฟสติวัลกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
วันที่ 4 มิ.ย.2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ครม.ได้เห็นชอบมาตรการภาษีและอนุมัติร่างหลักการกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศเพื่อกำหนดการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรแก่บุคคลธรรมดา บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับการท่องเที่ยวและการจัดอบรบสัมมนาในจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง และจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆภายในประเทศในช่วงโลว์ซีซั่น ตั้งแต่เดือน พ.ค. ถึงเดือน พ.ย. และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วน

นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่ผ่านก่อนที่งบประมาณจะถูกออกไปใช้เมื่อต้นเดือน ทางรัฐบาลเราให้ความสำคัญค่อนข้างมาก เป็นเครื่องยนต์สำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจ เมื่อวานนี้ตนได้ประชุมกับผู้เกี่ยวข้องถึงการสนับสนุนเมืองรองมีการประสานงานให้จัดเฟสติวัลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เป็นเดือนโลว์ซีซั่น ซึ่งได้แจ้งรัฐมนตรีหลายท่านที่เป็น สส.ในพื้นที่ หากในพื้นที่ของท่านมีเรื่องดีๆ ก็ให้ประสานกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อจะช่วยสนับสนุนและโปรโมทเศรษฐกิจพื้นเมืองได้ ซึ่งที่เรามีมาตรการภาษีออกไปทางกระทรวงการคลังประเมินว่าจะเสียมาตรการภาษีประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งตนมั่นใจว่าเราช่วยอย่างเต็มที่ถ้าเราสนับสนุนเมืองรองเราก็จะเกณฑ์กลับมาได้มากกว่า 1,500 ล้านบาท
นอกจากนั้นที่ประชุม ครม. ยังได้รับทราบตามที่คณะกรรมการวิสามัญสภาผู้แทนราษฎรเสนอเรื่องการศึกษาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภายใต้การเชื่อมโยงอ่าวไทยและอันดามัน หรือ แลนด์บริดจ์ ที่มีข้อเสนอด้านสิ่งแวดล้อมและการเวนคืนที่ดิน มิติทางเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ตลอดจนด้านความมั่นคงโดยขอให้กระทรวงคมนาคมรับข้อเสนอเพื่อไปพิจารณากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติออกมาตรการทางภาษีกระตุ้นการสร้างเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวภายในประเทศ ในเมืองรองช่วงโลว์ซีซั่น 2 มาตรการ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงเพิ่มการจ้างงาน โดยมาตรการแรก เป็นมาตรการภาษีกระตุ้นสัมมนาในประเทศสำหรับนิติบุคคล โดยนิติบุคคลสามารถนำรายจ่ายค่าห้องสัมมนา / ค่าห้องพัก / ค่าขนส่ง รวมถึงรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องในการอบรมสัมมนาภายในประเทศที่จัดขึ้นให้แก่ลูกจ้าง หรือ ค่าบริการของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวเพื่อการอบรมสัมมนาดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. - 30 พ.ย. 2567 หักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล
แบ่งเป็น 1.1 หักรายจ่ายได้ 2 เท่า สำหรับรายจ่ายจริงที่จ่ายไป ซึ่งเป็นการอบรมสัมมนาที่จัดในจังหวัดท่องเที่ยวรอง หรือ ในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด / 1.2 หักรายจ่ายได้ 1.5 เท่า จองรายจ่ายที่จ่ายจริง สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดในท้องที่อื่นนอกจากท้องที่ 1.1
ส่วนกรณีที่การสัมมนาเกิดขึ้นในท้องที่ตามข้อ 1.1 และข้อ 1.2 ต่อเนื่องกัน ให้หักรายจ่ายที่สามารถแยกได้ว่าเกิดขึ้นในท้องที่ใดตามข้อ 1.1 หรือข้อ 1.2 และถ้าแยกไม่ได้ให้หัก 1.5 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง
สำหรับมาตรการที่สอง มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรองสำหรับบุคคลธรรมดา โดยบุคคลธรรมดาสามารถนำค่าบริการที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว หรือ ที่ได้จ่ายเป็นค่าที่พักในโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย หรือ ค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองได้ตามที่จ่ายจริง แตไม่เกิน 15,000 บาท หักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตั้งแต่ 1 พ.ค.- 30 พ.ย. 2567
ทั้ง 2 มาตรการ ต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt)
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลัง ประมาณการณ์ว่า จะมีการสูญเสียรายได้ มาตรการแรก คาดว่า จะทำให้รัฐบาลสูญเสียภาษีเงินได้อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท / สาวนมาตรการที่สอง คาดว่า จะทำให้รัฐบาลสูญเสียภาษีเงินได้อยู่ที่ 581.25 ล้านบาท
เปิดโปรแกรมวอลเลย์บอลหญิงไทย ทำศึกเนชันส์ ลีก 2024 สัปดาห์ 3 ฮ่องกง
5 มิ.ย.67! กฟน.ประกาศ “ดับไฟ” 3 จุด กทม.-สมุทรปราการ
แหล่งโปรตีนธรรมชาติ เสริมการเจริญเติบโต ใครบ้างเหมาะกับกินเวย์โปรตีน?