ดีเดย์ 25 ก.ย.! "ดิจิทัลวอลเล็ต" 10,000 บาทถึงมือกลุ่มแรก 14.2 ล้านคน
"พิชัย" รองนายกฯ และ รมว.คลัง ยืนยันนโยบาย "ดิจิทัลวอลเล็ต" ก้อนแรกจ่าย 10,000 บาทครบ ครอบคลุม 14.2 ล้านคน เริ่ม 25 ก.ย. โดยประมาณ
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง อภิปรายในการประชุมรัฐสภาที่มีวาระเกี่ยวกับการแถลงนโยบายรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยชี้แจงเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจว่า ในช่วง 5 ปี่ที่ผ่านมาเศรษฐกิจเติบโตต่ำ ช่วงโควิดอาจจะเรียกว่าศูนย์ หลายคนพยากรณ์ว่าปี 2567 จะเติบโตระดับหนึ่ง ซึ่งไทยมีศักยภาพที่ดี แต่หากไม่ทำอะไรเลยก็จะยิ่งอ่อนด้อย
เปิดภาพดาวเทียม น้ำท่วมเชียงราย-เชียงใหม่ 86,438 ไร่
ไต้หวันระงับใช้งานเครื่องบินมิราจ 2000 หลังตกทะเล
สรุปบรรยากาศ นายกฯ แพทองธาร แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันแรก
นายพิชัย กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากจะมาแก้ปัญหาประเทศ เชื่อว่าจะมีแนวคิดใกล้เคียงกัน คือ เศรษฐกิจไม่ดี ส่วนหนึ่งมาจากประชาชน และ ร้านค้าระดับ SMEs เป็นหนี้เยอะ ส่วนร้านค้าขนาดใหญ่ยังไม่เป็น แต่ถ้าไม่แก้ ปัญหาก็จะค่อยๆ ลุกลามขึ้นไป
นายพิชัย กล่าวถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตว่า สำหรับแอปพลิเคชันทางรัฐ วัตถุประสงค์ใหญ่สุดคือการสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์ม เป็นแพลตฟอร์มกลางที่เชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมด และจะทำให้เราเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ประกอบกับทุกคนหายใจไม่ค่อยสะดวก จึงต้องเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยต้องคำนึงถึงเงินในกระเป๋า ความพร้อมของระบบ
“เราได้คิดแล้วว่าจะทำให้เร็วที่สุด เงินก้อนแรกนี้ น่าจะเป็น 10,000 บาทครบ และได้ดูรายชื่อแล้ว 14.2 ล้านคนเศษ น่าจะประมาณ 1.4 แสนล้านบาท เราได้เช็กแล้ว 90% ผมทบทวนพร้อมกับทีมงาน น่าจะสามารถกดปุ่มเคาะระฆังให้เงินก้อนแรกไหล 25 ก.ย. โดยประมาณ”
นายพิชัย กล่าวอีกว่า จะมีคำถามต่ออีกว่ากลุ่มคนลงทะเบียนที่เหลือจะทำอย่างไร ที่ย้ำไปแล้วว่า ดิจิทัลวอลเล็ตเบื้องหลังคือดิจิทัลแพลตฟอร์มที่มีประโยชน์อื่นๆ ซ่อนอยู่ด้วยเราคงจะเดินต่อไป แต่การจะเดินหน้าเฟส 2 จะจ่ายอย่างไร นอกจากดูความพร้อมของเงิน เราจะให้ความสำคัญของการใช้งบประมาณ โดยเฉพาะงบกลางให้กับการปรับปรุงโครงสร้างที่เป็นจุดอ่อนแอของประเทศก่อน เพื่อเศรษฐกิจระยะยาว และถ้ามีเงินเหลือพอจะเป็นไปได้จึงจะเจียดมาตรงนี้ เป็นการให้ความสำคัญลำดับรองลงมา ทั้งหมดอยู่ในภาพรวม หากมองภาพรวมนี้ เราต้องมีแผนที่ยืดหยุ่น สถานการณ์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขอเรียนว่า เราต้องเปลี่ยนไป