จ่อเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่สิ้น มี.ค.68 คาดมีถึง 25 ล้านคน
“จุลพันธ์” แนะผู้ผ่านการลงทะเบียนรับสิทธิ์โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแต่ยังไม่ยืนยันตัวตน eKYC ให้รีบดำเนินการที่ธนาคารกรุงไทยเพื่อรับเงินช่วยเหลือก่อน 26 ธ.ค.นี้ ล่าสุดเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ก่อนมี.ค.68 คาดมีจำนวนถึง 25 ล้านคน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ว่าการประชุมวันนี้มีการพิจารณาในหลายเรื่องและเป็นการรับทราบรายงานการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา และประมาณการในปีนี้ โดยได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพ ส่วนด้านกระบวนการที่ประชุมครมมี การสั่งการให้ทบทวนในเรื่องนี้ทุก 2 ปี และจะมีการทบทวนคุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิ์ทุกๆ 8 เดือน
หากพบว่าผู้รับสิทธิ์หลุดพ้นจากความยากจนแล้ว ก็จะโดนตัดสิทธิระหว่างทาง
สำหรับ เส้นตายของการดำเนินการจะต้องแล้วเสร็จก่อนสิ้นเดือน มี.ค 2568 เพื่อเริ่มกระบวนการลงทะเบียนคนใหม่ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 มีจำนวน 14.5 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ลงทะเบียนและผ่านกระบวนการพิจารณาแล้ว 1 ล้านคน แต่ยังไม่ผ่านกระบวนการยืนยันตัวตนด้วยระบบ eKYC ทำให้รัฐบาลไม่สามารถแจกเงินให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้ เนื่องจากเงินจะไม่ถึงมือประชาชนที่ได้รับสิทธิ ทำให้ที่ประชุมมีมติว่ากลุ่มคนเหล่านี้ซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณ 7 แสนคน จาก 1 ล้านคน ให้ทำการตรวจสอบสิทธิ์ผ่าน www.welfare.mof.go.th ซึ่งหลังจากการตรวจสอบพบว่าตนเองยังเป็นผู้มีสิทธิ์ให้ไปดำเนินการยืนยันตัวตนด้วยระบบ eKYC ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 เพื่อที่จะได้รับสิทธิ์จากโครงการสวัสดิการแห่งรัฐในรอบปีงบประมาณที่เหลือ แต่ทางรัฐบาลจะไม่มีการจ่ายเงินย้อนหลังให้ผู้รับสิทธิ์
สรุปปม “ทนายพัช” ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี จากคดี “แอม ไซยาไนด์”
วิเคราะห์พฤติกรรม "ทนายตั้ม" ส่อแววฮุบสมบัติเจ๊อ้อย?
วิธีกินแอปเปิลให้ได้ประโยชน์สูงสุด สารพฤกษเคมี ช่วยต้านอนุมูลอิสระด้วย
ในส่วนของการลงทะเบียนรอบใหม่ คาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนกว่า 25 ล้านคน จากเดิมที่มีเพียง 14.5 ล้านคน แบ่งเป็น ผู้ที่มีสิทธิในปัจจุบัน 14.5 ล้านคน และอีก 10 ล้านคน เป็นกลุ่มใหม่ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิ์มาก่อน ซึ่งมากจากประชาชนที่อายุครบ 18 ปี หรือกลุ่มที่เคยลงทะเบียนแต่ไม่ได้รับสิทธิ์
โดยกลุ่มผู้มีสิทธิ์เดิม 14.5 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง แต่รัฐบาลจะนำรายชื่อไปคัดกรองสิทธิ์อัตโนมัติ ส่วนกลุ่มผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิ์มาก่อน จะต้องมีการลงทะเบียนก่อน โดยจะเริ่มได้ก่อนสิ้นเดือนมีนาคม 2568
นายจุลพันธ์ ระบุอีกว่า ที่ผ่านมาการทำโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ จะใช้งบประมาณกว่า 60,000 ล้านบาทต่อปี โดยตั้งใจที่จะให้กระบวนการลงทะเบียนตรวจสอบคุณสมบัติรู้ผลได้ภายในกรกฎาคม 2568 เพื่อให้ทันใช้งบประมาณในปี 2569
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ทบทวนเกณฑ์คุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิอีกครั้ง เพื่อป้องกันการเข้ามาสวมสิทธิ์จากผู้ที่ไม่ได้ยากจน ให้กลับมาเสนอภายใน 1 เดือน โดยเกณฑ์รายได้ครัวเรือนยังมีคงเดิม ส่วนเกณฑ์การถือครองที่ดินจะไปตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจะตรวจสอบเกณฑ์เรื่องสินทรัพย์ ทั้งการถือครองสลาก และพันธบัตร รวมถึงยังได้สั่งการให้ สศค. ทบทวนสิทธิและสวัสดิการของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้เหมาะสม เช่น วงเงินการซื้อของจากร้านธงฟ้า ค่าแก๊ส ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ใช้สิทธิเพียง 40% และค่าเดินทาง โดยปัจจุบันยังพบว่ามี มีผู้ที่ไม่ได้ใช้สิทธิในส่วนนี้เป็นจำนวนมาก รวมถึงจะศึกษาเรื่องการรีสกิลอัพสกิลอีกด้วยด้วย