“ทรัมป์” จ่อขึ้นภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม 25% และจะขึ้น “ภาษีศุลกากรแบบตอบโต้”
ปธน.ทรัมป์เปิดเผยว่า มีแผนจะขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมทั้งหมด 25% รวมถึงจะประกาศขึ้นภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ด้วย
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 ก.พ. เขาจะประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมทั้งหมด 25% โดยจะเป็นการเพิ่มภาษีนำเข้าโลหะที่มีอยู่แล้ว โดยถือเป็นการปรับขึ้นภาษีครั้งใหญ่ในนโยบายการค้าของเขา
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน ขณะเดินทางไปชมการแข่งขันซูเปอร์โบว์ลของ NFL ที่นิวออร์ลีนส์ ว่า เขาจะประกาศขึ้นภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ด้วยในวันที่ 11 หรือไม่ก็ 12 ก.พ. โดยจะมีผลบังคับใช้เกือบจะในทันที

เขากล่าวว่า สหรัฐฯ จะปรับอัตราภาษีศุลกากรให้เท่ากับที่ประเทศอื่น ๆ เรียกเก็บ และจะใช้กับทุกประเทศ
ทรัมป์กล่าวถึงแผนภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ว่า “ถ้าพวกเขาเรียกเก็บภาษีจากเรา เราก็จะเรียกเก็บจากพวกเขา”
ทรัมป์กำหนดภาษีศุลกากรเหล็ก 25% และอะลูมิเนียม 10% ในช่วงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก แต่ต่อมาก็ให้โควตาปลอดภาษีแก่คู่ค้าหลายราย รวมถึงแคนาดา เม็กซิโก และบราซิล
อดีตประธานาธิบดีโ จ ไบเดน ได้ขยายโควตาดังกล่าวไปยังอังกฤษ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป และอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานเหล็กของสหรัฐฯ ก็ลดลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ตามข้อมูลของรัฐบาลและสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งอเมริกา แหล่งนำเข้าเหล็กที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ คือ แคนาดา บราซิล และเม็กซิโก รองลงมาคือเกาหลีใต้และเวียดนาม
แคนาดาเป็นซัพพลายเออร์โลหะอะลูมิเนียมหลักรายใหญ่ที่สุดให้กับสหรัฐฯ โดยคิดเป็น 79% ของการนำเข้าทั้งหมดในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2024 เม็กซิโกเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ของเศษอะลูมิเนียมและโลหะผสมอะลูมิเนียม
เรียบเรียงจาก Reuters