นายกฯ ยังไม่ชัด นั่งหัวโต๊ะเจรจาสงครามการทรัมป์ เอกชน รับ พอใจ! ผลหารือ
เอกชน รับ พอใจ! ผลหารือนายกฯ รับมือนโยบายทรัมป์ เห็นตรงกันไทยควรยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนไม่ให้เสียเปรียบ ส่วนให้นายกฯ นั่งหัวโต๊ะเจรจาหรือไม่ ยังไม่ชัด! ต้องดูตามความเหมาะสม
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เข้าหารือกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อร่วมกันกำหนดผลกระทบของประเทศไทยในนโยบายด้านเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลเข้าร่วมด้วยทั้งหมด
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้หารือร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) (สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย)
ในประเด็นสำคัญเพื่อเตรียมความพร้อมและแผนการดำเนินการด้านต่างๆ รองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจไทยจากนโยบายด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญและตระหนักถึงเรื่องนี้อย่างมากโดยได้มีการตั้งคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐฯ ขึ้นมาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเพื่อเตรียมพร้อมที่จะรับมือเรื่องนี้แล้ว รวมถึงได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับแผนการดำเนินการให้สอดคล้องกับสถานการณ์และทันกับบริบทต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลง
และเชื่อมั่นว่าด้วยความรู้ความสามารถของภาคเอกชนทุกท่านสามารถที่จะช่วยรัฐบาลได้อย่างมาก และรัฐบาลพร้อมร่วมมือกับภาคเอกชนในด้านต่าง ๆ รวมถึงการหาแนวทางรับมือผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่อาาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจไทย พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงการใช้ศักยภาพด้านสินค้าเกษตรของไทยในการรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจดังกล่าวด้วย
โดยก่อนเข้าประชุม นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนเองจะนั่งเป็นหัวหน้าทีมในการเจรจากับสหรัฐหรือไม่ ต้องรอหารือกับภาคเอกชนก่อน แต่อยากให้เป็นทีมที่ เคลื่อนไหวได้ง่าย ทำงานง่าย และสามารถเจรจาได้อย่างรวดเร็ว
ด้าน นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า การมาพบนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เพื่อนำความคิดเห็น ของภาคเอกชน นำเรียนต่อนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ผ่านมา นโยบายการค้าของสหรัฐ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย และช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกมีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ที่ส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจของไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้าการลงทุนและค่าเงิน ภาคเอกชน ได้ตระหนักถึงความท้าทายจากปัญหาดังกล่าว จึงมุ่งมั่นที่จะทำงานกับภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจไทย เพื่อให้ไทยสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกได้
ต่อมาภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผย ภายหลังการประชุม ร่วมกับนายกรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทางมาตรการร่วมกัน ในการเตรียมพร้อมรับมือกับการนโยบายการค้าสหรัฐ ว่าเบื้องต้นภาคเอกชน พอใจแนวทางที่รัฐบาลจะดำเนินการ
โดยการหารือร่วมกันในวันนี้ ภาคเอกชน ได้มีสิ่งสำคัญที่อยากให้รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนคือ เรื่อง ทรัมป์ 2.0 และมองว่าภาครัฐและเอกชน ต้องทำงานในแนวทางเดียวกัน เพื่อผลประโยชน์ของผู้ประกอบการ และประเทศของเราด้วย ซึ่งประเทศอื่นๆ ก็ทำแบบนี้เช่นเดียวกัน โดยที่ภาคเอกชนและภาครัฐต้องเป็นทีมงานเดียวกัน และขับเคลื่อนไปด้วยกัน ซึ่งตนเองมองว่า การทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์คิดว่าคงจะเป็นประโยชน์ ต่อเศรษฐกิจ และประชาชนของคนในชาติ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงในส่วนของภาคเอกชน ว่าได้เสนอข้อกังวลอะไรต่อภาครัฐหรือไม่ เนื่องจากมีระยะเวลาในการทำงานอย่างจำกัด เพราะภาคเอกชน เคยออกมาเปิดเผยว่าในวันที่ 2 เมษายน ที่จะถึงนี้ ทรัมป์จะประกาศชื่อประเทศไทยอยู่ในรายชื่อขึ้นภาษี โดย นายสนั่น ระบุว่า เชื่อว่าทุกประเทศมีความกังวลเหมือนกัน เพราะว่าไม่สามารถคาดเดากับคำสั่งของทรัมป์ได้
เพราะฉะนั้น ไทยเราต้องเตรียมตัวให้มีความพร้อมมากที่สุด และเชื่อว่าทางเอกชนเราก็มีข้อมูลและในส่วนของภาครัฐก็คงมีข้อมูล เมื่อนำข้อมูลทั้งสองส่วนมารวมกัน และพูดในแนวทางเดียวกัน ส่วนตัวคิดว่า คงจะเกิดเป็นการเจรจาที่ไทยไม่เสียเปรียบมากเกินไป
ส่วนที่ภาคเอกชนเคยเสนอให้นายกฯนั่งหัวโต๊ะในการเจรจากับสหรัฐ นายสนั่น ระบุว่า ในทางปฏิบัติ ต้องดูความเหมาะสมตามเหตุการณ์ เพราะนโยบายของโดนัลด์ทรัมป์มีความไม่แน่นอนสูง ต้องหาแนวทางรับมือให้ทันและมีความคล่องตัว ซึ่งทั้งภาครัฐและเอกชนเห็นตรงกันว่าไทยควรจะมีข้อเสนอแลกเปลี่ยนกับสหรัฐเพื่อไม่ให้เสียเปรียบและ ยังให้รู้สึกว่าเป็นมิตรซึ่งกันและกัน
สำหรับแนวทางในการเจรจา นั้น ไม่สามารถเล่าลงลึกถึงรายละเอียดได้ เพราะ หากจะเปิดเผยทุกอย่างไทยอาจจะเสียเปรียบได้ก่อนการไปเจรจา พร้อมทั้งขอยืนยันว่ายังไม่ช้าเกินไป โดยทางภาครัฐและเอกชนยินดีที่จะทำงานร่วมกัน เป็นทีมเดียวกัน หรือให้เรียกว่า Team Thailand
BTC
ETH
DOGE
ADA
BNB
KUB