อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล 2568 : 'วิโรจน์ ' จี้ 'กรมสรรพากร' ตอบปม 'นายกฯ ' ออกตั๋ว PN เลี่ยงภาษี 218 ล้าน
'วิโรจน์ ' จี้ 'กรมสรรพากร' ตอบปม 'นายกฯ ' ออกตั๋ว PN เลี่ยงภาษี 218 ล้าน หลังตั้งข้อสังเกตว่าเป็นช่องโหว่ทางกฎหมายเลี่ยงมิให้มารดาและเครือญาติต้องจ่ายภาษี
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อและในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าว ภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ที่ซื้อหุ้นต่อมาจากมารดาและเครือญาติรวม 5 ราย ในรูปแบบตั๋วสัญญาใช้เงินหรือ PN มูลค่า 4.4 พันล้านบาท โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นช่องโหว่ทางกฎหมายเลี่ยงมิให้มารดาและเครือญาติต้องจ่ายภาษีกว่า 218 ล้านบาท ว่าประชาชนยังรอฟังคำตอบจาก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้ยอมรับว่ามีการซื้อตั๋วสัญญา PN จริง และจะมีการจ่ายเงินภาษีในปีหน้า

นอกจากนี้ ประชาชนยังเฝ้ารอคำตอบจากอธิบดีกรมสรรพากร ว่า เป็นเรื่องปกติ ของคนในแวดวงธุรกิจที่ทำกันอย่างที่นายกรัฐมนตรีกล่าวอ้างหรือไม่ และหากเป็นเรื่องปกติขอให้คนที่ทำเช่นนี้ช่วยออกมาแสดงตัว แต่ไม่มีใครออกมาแสดงตัว โดยให้เหตุผลว่ากลัวสรรพากร จึงเป็นที่มาของคำถามว่าของนายกรัฐมนตรีนำตั๋ว PN ที่ไม่กำหนดวันจ่าย และดอกเบี้ย แลกกับหุ้นบริษัทของคนในกงสี เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เหตุใดจึงไม่กล้าแสดงตัว ทำไมถึงกลายเป็นนิรนาม
ซึ่งเป็นสิ่งที่นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากรต้องตอบ ว่าพฤติกรรมของนางสาวแพทองธาร ทำได้หรือไม่ เพราะปัจจุบันมีเจ้าของห้างร้านจำนวนมาก จะโอนหุ้นในทรัพย์สินให้กับลูก จะได้ยึดโมเดลแพทองธาร ตนยังรอความชัดเจน จากอธิบดีกรมสรรพากร ว่าจะมีระเบียบ ออกมาชี้แจงที่ชัดเจนหรือไม่ เพื่อให้การจัดเก็บภาษี การรับ - ให้ อัตรา 5% เสมอภาคทั้งประเทศ
นายวิโรจน์ ยังกล่าวอีกว่า มีสื่อมวลชนพยายามติดต่ออธิบดีกรมสรรพากร เพื่อขอความชัดเจนในเรื่องนี้แล้ว แต่ยังไม่มีความเห็นในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้นายวิโรจน์ ยังยกคำพิพากษาของศาลฎีกา หากใช้ตั๋ว PN ในลักษณะเช่นนี้จำแลง การซื้อขายที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ตามเจตนา มีความผิดตามกฎหมาย สามารถเทียบเคียงเอาผิดด้านจริยธรรมของนายกรัฐมนตรีได้ เจตนารมณ์ภาษีรับ-ให้ เกิดขึ้นมาเพื่อรองรับการรกระทำแบบนางสาวแพทองธารใช่หรือไม่ และคนที่ตอบได้ดีที่สุดคืออธิบดีกรมสรรพากร และตนจะไปยื่นเรื่องกับอธิบดีกรมสรรพากรในเร็วๆนี้