สหรัฐฯ เว้นภาษีไอโฟน - อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หวั่นราคาพุ่ง
รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศยกเว้นบังคับใช้มาตาการกำแพงภาษีกับ "ไอโฟน" และสินค้าอิเล็กทรอริกส์หลายประเภท หวั่นราคาพุ่ง หลังตั้งกำแพงภาษีจีนกว่า 145%
สำนักงานป้องกันชายแดนและศุลกากร เผยแพร่ประกาศฉบับใหม่เมื่อคืนวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา โดยเปิดเผยรายการสินค้าที่จะได้รับการยกเว้นจากการเก็บภาษีตอบโต้การค้าที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บจากประเทศต่าง ๆ ในอัตราที่แตกต่างกันไป โดยสินค้าที่ได้รับการยกเว้นจากประกาศฉบับนี้มีทั้งสมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ ชิป แผงโซลาร์เซลล์ และการ์ดความจำ
ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ แสดงความวิตกว่า มาตรการภาษีของ ประธานาธิบดี ทรัมป์อาจทำให้ราคาอุปกรณ์สมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์ถีบตัวสูงขึ้น

เนื่องจากสินค้าเหล่านี้ใช้จีนเป็นฐานการผลิตหลัก แม้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Apple และคู่แข่งอย่าง Samsung พยายามกระจายการผลิตออกไปยังที่อื่น ๆ เพื่อไม่ให้ต้องพึ่งพาจีนมากจนเกินไป
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี โดยนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ประกาศระงับการเก็บภาษีดังกล่าวเป็นเวลา 90 วันยกเว้นประเทศจีน ทำให้สินค้าจากประเทศจีนที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ ถูกเก็บภาษีในอัตรา 145% ตามเดิม ขณะที่ประเทศอื่น ๆ จะเผชิญเพียงภาษีขั้นต่ำที่ 10%
โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่าผลกระทบจากอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีนที่ระดับ 145% จะทำให้ราคา iPhone ที่ขายในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นเกือบเท่าตัว เช่น iPhone 16 Pro Max ที่ราคาจะเพิ่มขึ้นจาก 1,199 ดอลลาร์ หรือราว 40,000 บาท เป็น 2,150 ดอลลาร์ หรือกว่า 70,000 บาท
สำหรับสหรัฐฯ เป็นตลาดขนาดใหญ่ของ “iPhone” โดยมียอดขายคิดเป็นสัดส่วนถึงครึ่งหนึ่งของยอดขายทั้งหมด และมากกว่า 80% ของ iPhone ดังกล่าว ผลิตในประเทศจีน ขณะที่อีก 20% ผลิตในอินเดีย