แมคโดนัลด์สหรัฐฯ เตรียมจ้างพนักงานเพิ่ม 375,000 คน
แมคโดนัลด์ในสหรัฐฯ ประกาศแผนเพิ่มจำนวนพนักงาน 375,000 คน เป็นการเพิ่มพนักงานครั้งใหญ่สุดในรอบ 5 ปี
เมื่อวันที่ 12 พ.ค. แมคโดนัลด์ (McDonald's) ประกาศเตรียมจ้างพนักงานเพิ่ม 375,000 คนในสหรัฐฯ ภายในช่วงก่อนฤดูร้อนที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็นแผนการจ้างงานครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 5 ปีของแฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่รายนี้
การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นนี้เพื่อเพิ่มพนักงานในร้านอาหาร 13,000 แห่งในสหรัฐฯ รวมถึงบริษัทเตรียมเปิดสาขาใหม่ 900 แห่งในอีก 2 ปีข้างหน้าด้วย
แมคโดนัลด์เป็นหนึ่งในนายจ้างรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ โดยมีพนักงานประมาณ 800,000 คนในสหรัฐฯ

อย่างไรก็ดี แผนการจ้างงานนี้จะไม่ทำให้จำนวนพนักงานแมคโดนัลด์เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทประสบปัญหาอัตราการลาออก 100% และมักจะเปลี่ยนพนักงานที่ลาออกด้วยพนักงานใหม่เป็นประจำ
แต่โดยปกติแล้ว แมคโดนัลด์จะไม่ประกาศโครงการรับสมัครพนักงานจำนวนมาก เนื่องจากพนักงานส่วนใหญ่อยู่ในการดูแลของแฟรนไชส์ ขณะที่ฟาสต์ฟู้ดเจ้าอื่นมักใช้วิธีจ้างพนักงานชั่วคราวตามฤดูกาล หรือเน้นพนักงานพาร์ตไทม์ในช่วงวันหยุด
โจ เออร์ลิงเกอร์ ประธานแมคโดนัลด์สหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ว่า การลงทุนในกำลังแรงงานของบริษัทถือเป็นผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย โดยเสริมว่า การลงทุนดังกล่าวทำให้ “บริษัทมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมของชุมชนที่เราทำธุรกิจด้วย”
แผนการจ้างงานดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ แมคโดนัลด์รายงานผลประกอบการลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 เนื่องจากลูกค้าลดการใช้จ่าย โดยยอดขายของสาขาในสหรัฐฯ ลดลง 3.6% ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 รุนแรงในปี 2020
เรียบเรียงจาก CNN