ผู้ประกอบการแนะขนส่งทบทวนคำสั่งห้ามรถ 2 ชั้น วิ่ง 7 เส้นทางอันตราย
ผู้ประกอบการรถทัวร์โคราชเสนอกรมการขนส่งทางบกทบทวนกฎหมายห้ามรถ 2 ชั้นวิ่ง 7 เส้นทางอันตราย ชี้กระทบผู้ประกอบการ-ผู้โดยสาร-ร้านค้าริมทาง
นายชัยวัฒน์ วงศ์เบญจรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทนครชัยทัวร์ จำกัด กล่าวถึงมาตรการของกรมขนส่งทางบกที่ห้ามรถโดยสารไม่ประจำทางวิ่งผ่าน 7 เส้นทางอันตราย ว่าโดยส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับมาตรการดูแลเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารรถสาธารณะ แต่อยากให้มองทั้ง 2 มุม ระหว่างผู้โดยสารและผู้ประกอบการ เนื่องจากมาตรการดังกล่าวนั้นส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ เพราะไม่ใช่แค่ห้ามรถทัศนาจรแต่รวมไปถึงรถโดยสารประจำทางอีกด้วย ซึ่งถ้าให้ผู้ประกอบการนั้นลงทุนใหม่โดยเปลี่ยนเป็นรถชั้นเดียวทั้งหมดผู้ประกอบการคงไม่สามารถทำได้

แต่กฎหมายได้มีการบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทของตนก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะสายที่วิ่งไปจังหวัดเชียงรายทำให้ตั้งแต่มีกฎหมายบังคับใช้ออกมานั้นต้องวิ่งเลี่ยงเส้นทางโดยไม่ผ่านจังหวัดแพร่ ทำให้ผู้โดยสารที่จะไปจังหวัดแพร่นั้นต้องวางแผนการเดินทางเนื่องจากรถสายยาวนั้นจะไปถึงบริเวณแยกเด่นชัยประมาณ 03.00 – 03.30 น. ซึ่ง ณ เวลานั้นรถโดยสารที่วิ่งเข้าจังหวัดแพร่นั้นจะมีหรือไม่นั้นไม่ทราบ
นอกจากผู้ประกอบการ ผู้โดยสารจะได้รับผลกระทบแล้วชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ถนนที่ถูกห้าม 7 เส้นทางนั้นก็จะได้รับผลกระทบเรื่องของการขาดรายได้จากการขายสินค้า และที่สำคัญการเลี่ยงเส้นทางของผู้ประกอบการนั้นก็ใช่ว่าจะการันตีว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุ เพราะฉะนั้นอยากให้ทางกรมขนส่งฯนั้นกลับไปทบทวนมาตรการที่ออกมาอยากให้ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการ ผู้โดยสาร รวมถึงชาวบ้านที่อยู่ในถนนทั้ง 7 สาย
นายชัยวัฒน์ฯ กล่าวต่อว่า ตนนั้นอยากให้ทางกรมขนส่งทางบกนั้นใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการใช้ GPS อย่างจริงในการช่วงจำกัดความเร็ว เพราะต้องยอมรับว่าสาเหตุของการเกิดอุบัติส่วนหนึ่งมาจากความเร็วของรถ
สำหรับ 7 เส้นทาง ที่ถูกกำหนดห้ามรถสองชั้นใช้เส้นทางประกอบด้วย
- ทางหลวงหมายเลข 304 สี่แยกกบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว
- ทางหลวงหมายเลข 4 เขาพับผ้า-พัทลุง
- ทางหลวงหมายเลข 103 แม่ยางฮ่อ-แม่ตีบ
- ทางหลวงหมายเลข 118 เชียงใหม่-ดอยนางแก้ว
- ทางหลวงหมายเลข 2013 บ่อโพธิ์-โคกงาม
- ทางหลวงหมายเลข 2331 โจ๊ะโหวะ-อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
- ทางหลวงหมายเลข 1256 ปัว-อุทยานแห่งชาติดอยภูคา