เงินเยนอ่อนค่าทะลุ 148 ต่อดอลลาร์ ทุบสถิติในรอบ 32 ปี ญี่ปุ่นขู่ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด

แบงก์ชาติเกาหลีใต้ ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู้เงินเฟ้อพุ่ง, เยนอ่อนทะลุ 146 ต่อดอลลาร์

พิษเงินเยนอ่อนค่าหนัก ญี่ปุ่นนำเข้าพลังงานพุ่ง ฉุดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดต่ำ

เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 256 สกุลเงินเยนของญี่ปุ่น อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ จนทำจุดต่ำสุดในรอบ 32 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นผลมาจากระยะห่างที่มากขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายระหว่างญี่ปุ่น และสหรัฐฯ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (Fed) ตั้งเป้าลดเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ทำให้มีแนวโน้มว่าจะยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไป ตลาดคาดว่าจะเพิ่มอีก 0.75% ในการประชุมครั้งหน้า ซึ่งได้แรงหนุนจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ (CPI) หรือเงินเฟ้อ เดือน ก.ย. พุ่งสูงเกินคาดที่ 8.2% 

กราฟแสดงค่าเงินเยน เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯในรอบ 5 วันที่่ผ่านมา

 

ขณะที่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงตัดสินใจที่จะใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ สำหรับอัตราดอกเบี้ย -0.1% และ 0% สำหรับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดี หลังการระบาดโควิด-19

สกุลเงินเยน เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (14 ต.ค.65) ปิดตลาดอยู่ที่ 148.7 เยนต่อดอลลาร์ ตลอดทั้งสัปดาห์เปลี่ยนแปลง -2.35% ทำสถิติต่ำสุดรอบ 32 ปี

 

ล่าสุด นาย มาซาโตะ คันดะ ผู้ดูแลนโยบายค่าเงินของญี่ปุ่น ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงการคลัง ระบุว่า รัฐบาลกำลังติดตามอย่างใกล้ชิดในตลาดสกุลเงิน และพร้อมจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทุกเมื่อ หากเงินเยนยังคงอ่อนค่ามากเกินไป

“ความผันผวนที่มากเกินไป และไม่เป็นระเบียบในตลาดค่าเงิน จะส่งกระทบในทางลบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เราอาจต้องใช้มาตรการที่จำเป็น แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะทำอะไร” คันดะ กล่าว

โดยเมื่อเดือนที่ผานมา รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจเทขายสกุลเงินดอลลาร์ และซื้อสกุลเงินเยน มูลค่าเกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์ หรือ ราว 7.6 แสนล้านบาท เพื่อแทรกแซงตลาดค่าเงิน นับเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี ซึ่งมีเป้าหมายชะลอเงินเยนที่อ่อนค่าไม่หยุด เพราะมองว่าจะสร้างปัญหาให้กับเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ตามมาตรการดังกล่าวส่งผลเพียงระยะสั้นเท่านั้น  เนื่องจากเงินเยนยังคงอ่อนค่าไม่หยุด