ลุ้นเงินทุนไหลเข้าหุ้นไทยต่อ หลังเงินเฟ้อเริ่มเบา จับตาสหรัฐฯชะลอขึ้นดอกเบี้ยแรง
เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มกลับมาฟื้นตัว หลังตัวเลข PCE ออกมาต่ำกว่าคาด อาจเป็นสัญญาณว่าเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดแล้ว มีลุ้นที่ เฟด จะไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลให้กับนักลงทุน และยังเป็นตัวช่วยให้ต่างชาติ มีแนวโน้มซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องได้ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาซื้อสุทธิแล้วกว่า 1.25 หมื่นล้านบาท
ค่าเงินบาทขยับแคบ ๆ ที่ระดับ 38 บาท/ดอลลาร์ รอผลประชุมเฟด 1-2 พ.ย.
ราคาทองวันนี้ (31 ต.ค.65) เข้าไตรมาส 4 วันสิ้นเดือน ปรับตัวลดลง 50 บาท
ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส (ASPS) เปิดเผยรายงานบทวิเคราะห์ว่า แรงกดดันจากความกังวลเรื่อง เงินเฟ้อ และ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ได้เบาบางลงตามลำดับ โดยสัญญานเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ตลาดหุ้นสหรัฐฯเริ่มฟื้นตัว (Outperform) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปิดตัวในแดนบวกราว 2.3% - 2.9% หลังสัญญาณเชิงบวกเริ่มกลับเข้ามาต่อเนื่อง
โดยล่าสุดกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในเดือนก.ย. อยู่ที่ระดับ 6.2% จากปีก่อน ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 6.3% แต่ไม่ทำจุดสูงสุดใหม่
ขณะที่ ดัชนี Core PCE ในเดือนก.ย. อยู่ที่ระดับ 5.1% จากปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าคาดที่ระดับ 5.2% โดยปัจจัยดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และอาจทำให้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (FED) ไม่เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยแรง
ด้านFed Watch Tool ของ CME เครื่องมือคาดการณ์ปรับขึ้นดอกเบี้ยของ เฟด บ่งชี้ว่ามี โอกาสสูงถึง 81% ที่ เฟด จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งถัดไป (2 พ.ย. นี้) แต่คาดว่าจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยอยู่ที่อัตรา 0.5% ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ (14 ธ.ค.นี้ ) ด้วยความน่าจะเป็น ที่ 47%
ขณะที่ปลายปี 2566 ผลการสำรวจส่วนใหญ่ราว 25% ให้ น้ำหนัก Fed Fund Rate จะขึ้นจบลงที่บริเวณ 4.75% ต่างจากก่อนหน้านี้ให้น้ำหนักส่วนใหญ่อยู่ที่ 5.00-5.25%
ด้านอัตราเงินเฟ้อของไทยเดือนถัด ๆ ไปลดลงอย่างชัดเจนเช่นกัน โดยลดลงจาก 6.4% จากปีก่อน ในเดือน ก.ย.65 มาอยู่ที่ 2.1% จากปีก่อน ราวเดือน มิ.ย.66 ซึ่งอยู่กรอบที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินไว้1% - 3% ในปีหน้า
ขณะกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ GDP ไทยปี 2565 เพิ่มขึ้น +2.8% จากปีก่อน และปี 2566 เพิ่มขึ้น +3.7% จากปีก่อนหน้า ซึ่งมากกว่าประเทศฝั่งพัฒนาแล้ว ล่าสุด สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 65 ลงเหลือ เพิ่มขึ้น 3.4% จากปีก่อน ต่างจากเดิมที่คาดเพิ่มขึ้น +3.5% จากปีก่อน ส่วนในปี 2566 คาดอยู่ระดับเพิ่มขึ้น +3.8% จากปีก่อนหน้า จากความคาดหวังการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนในปีหน้า
ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทย (SET INDEX) ยังขึ้นไม่เยอะ โดยต่างชาติสะสมหุ้นและ TFEX ต่อเนื่อง หากพิจารณาข้อมูลซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ จะเห็นได้ว่ากระแสดเงินทุน (Fund Flow) ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง 6 วันทำการ (20 – 28 ต.ค. 65) กว่า 1.25 หมื่นล้านบาท รวมถึงต่างชาติซื้อสุทธิ SET50 Futures (ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า) ต่อเนื่อง 8 วันทำการ (18 – 28 ต.ค. 65) กว่า 1.54 แสนสัญญา แต่จะสังเกตได้ว่า SET Index ยังขยับขึ้นได้ไม่เยอะ ในช่วงที่ต่างชาติซื้อทั้งหุ้นและ TFEX (20 – 28 ต.ค. 65) บวกเพียง 1.1% เท่านั้น
นอกจากนี้ ปัจจัยกดดันเรื่องเงินเฟ้อ และการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐชะลอลง เป็นตัวช่วยให้ต่างชาติ มีแนวโน้มซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องได้ ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ จึงทำการค้นหา 20 หุ้นที่ต่างชาติซื้อ สุทธิสะสมทางตรงมากสุดในช่วงที่กระแสเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง ทั้งในตลาดหุ้นและ TFEX (20 – 28 ต.ค. 65) ได้ผลลัพธ์ทางตารางด้านล่าง