ค่าเงินบาทเช้านี้ "แข็งค่าเล็กน้อย" จากเงินเยนแข็งกดดันดอลลาร์ร่วง
ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 34.67 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากปิดตลาดเมื่อวานที่ 34.74 บาท/ดอลลาร์ มองกรอบวันนี้ ช่วง 34.50- 35.10 บาท/ดอลลาร์
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) มองว่าเงินบาทยังคงแข็งค่าตามค่าเงินเยน หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น( BOJ) ประกาศขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี นักลงทุนจึงกังวลว่าญี่ปุ่นจะหันมาใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินตามรอยธนาคารกลางทั่วโลก ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้น 1,843 ล้านบาท
ปัจจัยที่ตลาดจับตา คือดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี PCE จะบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
ราคาทองวันนี้ ปิดตลาดขึ้น 50 บาท ตลาดต่างประเทศวิ่งทะลุ 1,800 ดอลลาร์
หุ้นเอเชียดิ่งยกแผง เงินเยนแข็ง แบงก์ชาติญี่ปุ่นช็อกตลาดปรับนโยบายการเงิน
การเคลื่อนไหวค่าเงินบาทในรอบ 5 วัน
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ
แนะนำ ผู้นำเข้าควรซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อปิดความเสี่ยง และผู้ส่งออก แนะนำขายเงินตราต่างประเทศที่เหนือระดับ 35.50 บาท/ดอลลาร์
ด้านนายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวน หลังจากที่ล่าสุด ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ขยายกรอบบอนด์ยีลด์ 10 ปี ญี่ปุ่น เป็น 0.00%+/-0.50% จากเดิม 0.00%+/-0.25% ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็ปรับตัวขึ้น +10bps สู่ระดับ 3.70%
การเคลื่อนไหวเงินเยนญี่ปุ่น แข็งค่าอย่างรวดเร็วในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก (ล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวลงใกล้ระดับ 104 จุด) กดดันโดยการปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) หลังจากที่ BOJ ได้ขยับกรอบบอนด์ยีลด์ 10 ปี ญี่ปุ่น ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า BOJ อาจเริ่มทยอยปรับนโยบายการเงินให้ผ่อนคลายน้อยลง เช่นเดียวกับที่บรรดาธนาคารกลางหลักได้ทำมาก่อนหน้านี้
นักลงทุนมองว่า BOJ อาจทยอยขึ้นดอกเบี้ย ครั้งละ +10bps หรือ +0.10% ได้ราว 3 ครั้ง ในปีหน้า