ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ แข็งค่าเล็กน้อย ตลาดคาดเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย
ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 34.54 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเมื่อเทียบกับวานนี้ที่ระดับ 34.56 บาท/ดอลลาร์ โดยมองกรอบวันนี้ที่ ระดับ 34.40 - 34.65 บาท/ดอลลาร์
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่าค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยนักลงทุนคลายความกังวลหลังจากรัฐบาลสหรัฐและทั่วโลกได้ออกมาสร้างความเชื่อมั่นว่าจะสามารถควบคุมวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร
นอกจากนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ( CPI ) ในเดือน ก.พ.ออกมาชะลอตัวลงยังเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค. แทนที่จะปรับขึ้น 0.50% ตามที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้
หุ้นรูด 49.18 จุด ต่างชาติเทขาย 4.73 พันล้าน โยกเข้าพันธบัตรกันเสี่ยง
ราคาทองวันนี้ ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 200 บาท เทรดเดอร์มองระยะสั้น ขาขึ้น
ค่าเงินบาทยังแนวโน้มแข็งค่า ตลาดคาดเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย
แนะนำผู้นำเข้าควรซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อป้องกันความเสี่ยง และผู้ส่งออก ขายเงินตราต่างประเทศที่ระดับเหนือ 34.60 บาท/ดอลลาร์
ด้านนายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่าผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่างกลับมาทยอยเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หนุนให้ ดัชนี S&P500 พุ่งขึ้นแรง +1.65% หลังความกังวลต่อเสถียรภาพระบบธนาคารสหรัฐฯ เริ่มลดลง เนื่องจากยังไม่พบการปิดตัวเพิ่มเติมของธนาคารขนาดเล็ก-กลางในสหรัฐฯ จากปัญหาสภาพคล่อง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้แรงหนุนจากรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ชะลอลงสู่ระดับ 6.0% และ 5.5% ตามที่ตลาดคาด ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดมองว่า เฟดอาจไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย +0.50% แต่การเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องจนแตะระดับ 5.25% ยังมีความเป็นไปได้อยู่
ด้านตลาดบอนด์ ผู้เล่นในตลาดเริ่มกลับมาทยอยเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ขณะเดียวกัน แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ จะชะลอลง แต่โดยรวมก็ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในส่วนภาคการบริการ สะท้อนว่า เฟดยังมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ (จาก CME FedWatch Tool ผู้เล่นในตลาดให้โอกาส 69% ที่เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยจนแตะระดับ 5.25%)
มุมมองดังกล่าวของผู้เล่นในตลาดได้ส่งผลให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ พลิกกลับมาปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.69% และมีโอกาสทยอยปรับตัวขึ้นทดสอบโซนแนวต้าน 3.70%-3.80% ได้ไม่ยาก หากตลาดไม่ได้กลับมาปิดรับความเสี่ยงรุนแรงจากความกังวลปัญหาเสถียรภาพระบบธนาคารสหรัฐฯ
ส่วนค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวน โดยมีจังหวะปรับตัวแข็งค่าขึ้น หลังตลาดรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ก่อนที่เงินดอลลาร์จะพลิกกลับมาอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักโดยล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ย่อตัวลงใกล้ระดับ 103.6 จุด
ราคาทองคำ ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดและการรีบาวด์ขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.) เผชิญแรงขายทำกำไรต่อเนื่องและย่อตัวลง สู่ระดับ 1,906 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท แม้จะเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าในช่วงตลาดรับรู้รายงานอัตราเงิน CPI สหรัฐฯ ที่ส่งผลให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าสุดเกือบแตะระดับ 34.65 บาทต่อดอลลาร์ แต่การอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ ก็ช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทลง ทำให้โดยรวมเงินบาทไม่ได้อ่อนค่าลงไปมากโดยวันนี้ ค่าเงินบาทจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ต่อเนื่อง จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่