ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 36.83 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงวันก่อนหน้า
ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 36.83 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 36.82 บาท/ดอลลาร์
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 36.83 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 36.82 บาท/ดอลลาร์
ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนและกลับมาอ่อนค่าจาก fund flow ที่ยังคงไหลออก หลังดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยหลุดแนวรับจิตวิทยา 1,300 จุด ในระยะสั้นนี้ความไม่แน่นอนทางการเมืองจะเป็นปัจจัยเพิ่มความผันผวนต่อตลาดการเงิน
ซึ่งอาจจะทำให้นักลงทุนต่างชาติหลีกเลี่ยงการซื้อสินทรัพย์ในไทย แม้ว่าตลาดหุ้นและพันธบัตรของไทยค่อนข้างอยู่ในระดับราคาที่ต่ำก็ตาม
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยเมื่อวานนี้ได้แก่ ยอดค้าปลีก ซึ่งเป็นมาตรวัดการอุปโภคบริโภค ปรับตัวขึ้น 3.7% ในเดือน พ.ค. ซึ่งดีกว่าในเดือนเม.ย.ที่เพิ่มขึ้น 2.3% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3% โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลวันหยุด แต่การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 5.6% ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือน เม.ย.ที่เพิ่มขึ้น 6.7% และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 6%
ส่วนตัวเลขฝั่งสหรัฐที่ต้องติดตาม ได้แก่ยอดค้าปลีกในวันนี้ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างในวันพฤหัสบดี รวมทั้งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการจากเอสแอนด์พี โกลบอลในวันศุกร์
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทวันนี้ คาดกรอบการเคลื่อนไหวที่ 36.75-36.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ
เมื่อวานนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 9,555 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,706 ล้านบาท
กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ
USD/THB 36.75- 36.90
*แนะนำ ทยอยขายที่ระดับเหนือ 36.90
EUR/THB 39.40- 39.70
* แนะนำ ทยอยขายที่ระดับ 39.70
JPY/THB 0.2320- 0.2360
* แนะนำ ทยอยซื้อ 0.2320
GBP/THB 46.60-47.00
AUD/THB 24.20- 24.60
ด้านนายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.79 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.82 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideways (แกว่งตัวในช่วง 36.77-36.85 บาทต่อดอลลาร์) แม้ว่าเงินดอลลาร์จะทยอยอ่อนค่าลงบ้าง ตามการรีบาวด์ขึ้นของบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะสกุลเงินฝั่งยุโรป ทั้งเงินยูโร (EUR) และเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) หลังตลาดการเงินยุโรปเริ่มกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น แต่เงินบาทกลับไม่ได้แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ เนื่องจากราคาทองคำก็มีจังหวะปรับตัวลดลง ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนยังคงรอจังหวะดังกล่าวในการทยอยเข้าซื้อทองคำ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดบางส่วนต่างยังคงกังวลต่อสถานการณ์การเมืองของไทย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงมีมุมมองเชิงลบต่อเงินบาทในระยะสั้นนี้ ส่วนนักลงทุนต่างชาติก็ยังไม่รีบกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ไทย
แนวโน้มของค่าเงินบาท
ประเมินว่า ควรระวังความเสี่ยงที่เงินบาทอาจผันผวนอ่อนค่าลงต่อได้ ท่ามกลางความกังวลสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ดังจะเห็นได้จากแรงขายสินทรัพย์ไทยอย่างต่อเนื่องของบรรดานักลงทุนต่างชาติ ทำให้เราประเมินว่า เงินบาทมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้านแถว 36.85-36.90 บาทต่อดอลลาร์ (แนวต้านถัดไป 37.00 บาทต่อดอลลาร์) อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินบาทอาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากผู้เล่นในตลาดบางส่วน อย่างบรรดาผู้ส่งออก อาจรอทยอยขายเงินดอลลาร์ในจังหวะที่เงินบาทอ่อนค่าเข้าใกล้โซนแนวต้านดังกล่าวได้
ส่วนการแข็งค่าในช่วงนี้ก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด จนกว่าตลาดจะคลายกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศและสถานการณ์การเมืองฝั่งยุโรป ซึ่งจะช่วยให้เงินดอลลาร์สามารถอ่อนค่าลงได้ชัดเจนอีกครั้ง หากตลาดยังมั่นใจว่า เฟดจะสามารถทยอยลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ ทำให้เงินบาทยังมีแนวรับแถวโซน 36.60-36.70 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ทั้งรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของยูโรโซน (ช่วง 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ (ช่วง 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) โดยหากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ตลาดกลับมาเชื่อว่า เฟดจะสามารถทยอยลดดอกเบี้ยได้ 2 ครั้งในปีนี้ ก็อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาทได้บ้าง แม้ว่าเงินบาทจะยังคงเผชิญแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองในประเทศก็ตาม
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.65-36.90 บาท/ดอลลาร์
ศาลรธน. สั่งรวมสำนวนไต่สวนคดี 112 ในคดียุบพรรคก้าวไกล สั่งพิจารณาต่อ 3 ก.ค.
10 อันดับเมืองที่บ้านมีราคาแพงจนคนทั่วไปไม่สามารถซื้อได้อีกต่อไปแล้ว
วิเคราะห์บอล! ยูโร 2024 โปรตุเกส พบ เช็ก 18 มิ.ย.67