เงินบาทเปิดเช้าอ่อนค่า ที่ระดับ 32.52 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
เงินบาทเปิดเช้าอ่อนค่า หลังดอลลาร์แข็งจากความไม่แน่นอนนโยบายเฟด–จับตาข้อมูลแรงงานสหรัฐฯ
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (ทีเอ็มบีธนชาต (ttb)) เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ (4 พ.ย.) ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 32.52 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวานที่ 32.49 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่วนความยืดเยื้อในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ (ชัตดาวน์) เป็นวันที่ 34
ทำให้เฟดยังไม่มีข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในการประกอบการตัดสินใจ ส่งผลให้นักลงทุน ลดคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนธันวาคม
ขณะที่ตลาดยังรอติดตามตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจากบริษัท ADP ซึ่งจะประกาศในวันพุธนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มตลาดแรงงานและทิศทางนโยบายดอกเบี้ย
สำหรับกระแสเงินทุนต่างชาติ เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิหุ้นไทย 648.68 ล้านบาท แต่ ขายสุทธิพันธบัตรไทย 1,822 ล้านบาท
กรอบค่าเงินและกลยุทธ์รายวันของ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb)
- USD/THB: 32.40 – 32.70 (แนะนำทยอยซื้อที่ 32.40 / ขายที่ 32.70)
- EUR/THB: 37.20 – 37.70 (ซื้อ 37.20 / ขาย 37.70)
- JPY/THB: 0.2080 – 0.2130 (ซื้อ 0.2080 / ขาย 0.2130)
- GBP/THB: 42.50 – 43.00
- AUD/THB: 21.00 – 21.50
ด้านกลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ประเมินว่า วันนี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.40–32.65 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเงินบาทยังคงอ่อนค่าตามทิศทางดัชนีเงินดอลลาร์ที่แข็งขึ้น แม้ดัชนีภาคการผลิต (ISM Manufacturing Index) เดือนล่าสุดจะออกมาที่ระดับ 48.7 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ แต่ส่วนประกอบด้านอุปสงค์มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น
ส่วน นางแมรี ดาลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ “ยังไม่ปิดโอกาส” ที่จะคงหรือปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ เห็นชอบหลักการแก้ปัญหาหนี้รายย่อย โดยมอบหมายให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เข้ารับซื้อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) เฟสแรก คาดช่วยผู้กู้ได้ประมาณ 2.36 ล้านราย รวมมูลค่ากว่า 62,000 ล้านบาท เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้ของประชาชนในระยะเร่งด่วน ด้านราคาทองคำในตลาดโลกลดลง
BTC
ETH
DOGE
ADA
BNB
KUB