หุ้นไทยวันนี้ (20 ก.ค.64) ปรับตัวลงแรง ปิดการซื้อขาย -17.15 จุด
หุ้นไทยวันนี้ (20 ก.ค.64) ปิดการซื้อขาย 1,538.86 จุด ลดลง -17.15 จุด (-1.10%) มูลค่าการซื้อขาย 92,956.58 ล้านบาท
นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯที่ปรับตัวลงแรง ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างติดลบ หลังราคาน้ำมันร่วงแรงจากการที่กลุ่มโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน ท่ามกลางสถานการณ์ทั่วโลกที่ยังมีความกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ ทำให้มองว่าการขยายกำลังผลิตน้ำมันอาจผิดจังหวะ ซึ่งตลาดบ้านเรามีหุ้นในกลุ่มพลังงานค่อนข้างมากจึงตอบรับประเด็นนี้ไปมาก
ปรับวงเงิน “ยิ่งใช้ยิ่งได้” เป็นไม่เกิน 10,000 บาทต่อวัน
ครม.เคาะเยียวยาผู้ประกอบการ-ลูกจ้างเพิ่ม 3 จังหวัด ล็อกดาวน์ “ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-อยุธยา”
นอากจากนั้น ตลาดหุ้นไทยยังเผชิญแรงกดดันเดิม จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายวันสูงมากกว่าหมื่นราย แต่ได้ประเด็นการเซ็นสัญญาซื้อวัคซีนไฟเซอร์มาช่วยหนุนตลาดฯได้บ้าง รวมถึงตลาดยุโรปเทรดช่วงบ่ายนี้ฟื้นตัวเปิดบวกได้เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส จึงเป็น Sentiment หนุนตลาดบ้านเราให้ฟื้นตัวกลับขึ้นมาลดช่วงลบได้บ้างเล็กน้อยในช่วงบ่าย
นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ทั้งของสหรัฐและไทยลงมาอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ต้องหันกลับมาดู Earning yield gap อีกรอบ อย่างไรก็ดี มองตลาดฯตอนนี้มี Downside ต่ำแล้ว เชื่อว่ารอบนี้ดัชนีฯไม่น่าจะลงไปต่ำกว่า 1,500 จุด แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ และการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ รวมถึงรอดูผลของการยกระดับมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดโควิด-19 จะเอาอยู่หรือไม่
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ค.) นายสุโชติ กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสรีบาวด์หลังจากลงไปมากแล้ว แต่เชื่อว่าคงยังไปไหนได้ไม่ไกล ไม่น่าจะพ้นแนวต้าน 1,550 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,520-1,500 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,989.27 ล้านบาท ปิดที่ 35.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
SNNP มูลค่าการซื้อขาย 4,866.11 ล้านบาท ปิดที่ 10.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,471.48 ล้านบาท ปิดที่ 109.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 3,173.50 ล้านบาท ปิดที่ 4.90 บาท ลดลง 0.10 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,568.93 ล้านบาท ปิดที่ 58.00 บาท ลดลง 1.75 บาท
หุ้นไทยวันนี้ (20 ก.ค.64) ปิดการซื้อขายเช้า1,531.19 จุด ลดลง -24.82 จุด (-1.60%) มูลค่าการซื้อขาย 56,821.73 ล้านบาท
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียต่างติดลบถ้วนหน้า จาก Senttiment การลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาระบาดหนักในหลายประเทศ สร้างความกังวลว่าจะกดดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก ทำให้วิตกว่าเงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงโยกไปสู่สินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวลงมากทำให้ไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน
ไฟเซอร์-ไบออนเทค แจ้งลงนามสัญญาซื้อขายไทย ส่งวัคซีน 20 ล้านโดส ไตรมาส 4/64
หุ้นโลกร่วง หวั่นโควิดเดลตาระบาดหนัก
แม้แต่ตลาดบ้านเราก็เผชิญกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาด้วยเช่นกัน ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศยังอยู่ในระดับสูง จึงต้องติดตามต่อไปว่าเมื่อยกระดับมาตรการล็อกดาวน์เข้มขึ้นแล้วจะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดลดลงได้หรือไม่ คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ดี แนะติดตามตัวเลขส่งออกของไทยเดือนมิ.ย. และการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ รวมถึงการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 22 ก.ค.นี้ ส่วนสัปดาห์หน้าให้รอติดตามการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 27-28 ก.ค.นี้
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงยังแกว่งตัวในแดนลบ โดยมีแนวรับ 1,530-1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550-1,560 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SNNP มูลค่าการซื้อขาย 3,742.86 ล้านบาท ปิดที่ 11.30 บาท เพิ่มขึ้น 2.10 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,301.70 ล้านบาท ปิดที่ 35.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 2,324.83 ล้านบาท ปิดที่ 4.90 บาท ลดลง 0.10 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,853.78 ล้านบาท ปิดที่ 110.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,669.67 ล้านบาท ปิดที่ 58.25 บาท ลดลง 1.50
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในลักษณะซึมตัวลง หลังจากที่ตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรปต่างปรับตัวลงแรงราว 2% จากความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตา ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดทั่วโลกพุ่งขึ้นมาเกือบ 5 แสนรายต่อวัน จากสัปดาห์ก่อนหน้า
ประกาศกทม.บังคับ 20ก.ค. - 2 ส.ค. สั่งปิดสถานที่ เปิดตามเงื่อนไข กว่า 20 กิจการเปิดได้ตามความจำเป็น
13 จังหวัด เตรียมพร้อม เดินทางออกนอกพื้นที่กรอกแบบฟอร์ม ยื่นให้ตำรวจที่ด่าน
ทำให้ตลาดกลับมากังวลอีกครั้ง ในเรื่องเศรษฐกิจอาจชะลอตัว, การกลับมาล็อกดาวน์อีก เป็นต้น รวมถึงราคาน้ำมันก็ร่วงแรงถึง 7% จากโควิดระบาดหนัก และกลุ่มโอเปกพลัสยังจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันด้วย
นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯได้ปรับตัวลงมากมาอยู่ที่ 1.2% ทำให้เป็นผลลบต่อกลุ่มสถาบันการเงินในสหรัฐฯ และยุโรป ส่วนบ้านเราคงจะรับผลลบไม่มาก เพราะได้ปรับตัวลงไปก่อนหน้านี้แล้ว อีกทั้งตลาดบ้านเราก็เผชิญแรงกดดันจากโควิดระบาดหนักเช่นกัน จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังอยู่ในระดับสูงกว่าหมื่นรายต่อวัน และมาตรการล็อกดาวน์ก็เริ่มใช้วันนี้วันแรก
อย่างไรก็ดี ในช่วงบ่ายให้รอดูตลาดในยุโรปจะฟื้นตัวได้หรือไม่ และติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์, การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ จะมีเรื่องมาตรการเยียวยา และการล็อกดาวน์ออกมาเพิ่มอีกหรือไม่ อย่างไร รวมถึงติดตามความคืบหน้าวัคซีน และสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดต่อไป
พร้อมให้แนวรับ 1,550-1,545 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560-1,564 จุด
สถานการณ์อื่นๆ
ดัชนีดาวโจนส์
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 700 จุดเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะไวรัสสายพันธุ์เดลตา ซึ่งความกังวลดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มสายการบิน ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงอย่างหนักหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทรุดตัวลงกว่า 7%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,962.04 จุด ลดลง 725.81 จุด หรือ -2.09% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,258.49 จุด ลดลง 68.67 จุด หรือ -1.59% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,274.98 จุด ลดลง 152.25 จุด หรือ -1.06%
หุ้นเอเชีย
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,515.07 จุด ลดลง 24.05 จุด หรือ -0.68%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,351.80 จุด ร่วงลง 300.94 จุด หรือ -1.09% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,395.83 จุด ลดลง 93.95 จุด หรือ -0.34%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 70 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 5.39 ดอลลาร์ หรือ 7.5% ปิดที่ 66.42 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. 2564
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ดิ่งลง 4.97 ดอลลาร์ หรือ 6.8% ปิดที่ 68.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. 2564