ธนาคาร Sberbank ของรัสเซียถอนตัวออกจากยุโรป หลังกระแสเงินสดทะลักไหลออก
Sberbank ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของรัสเซีย กำลังจะถอนตัวออกจากตลาดยุโรป หลังจากที่ต้องเผชิญกับกระแสเงินสดไหลออกจำนวนมาก รวมถึงภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของพนักงานและสาขา
Sberbank กำลังเผชิญกับกระแสเงินสดที่ไหลออกอย่างผิดปกติ ซึ่งหมายความว่าธนาคารจะไม่มีสภาพคล่องอีกต่อไป แต่ยังคงยืนยัน มีเงินทุนสำรองเพียงพอที่จะชำระเงินให้กับลูกค้าธนาคารทั้งหมด
ค่าเงินรูเบิลล่มสลาย จากแซงชั่น ตัดขาดจากระบบชำระเงินโลก
วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน 3 พืชเศรษฐกิจตัวแปร "ดันราคาพลังงาน-อาหารโลก" พุ่งสูงขึ้น
แพลลาเดียม แร่หายาก ราคาพุ่งขึ้นกว่าทองคำในช่วงสงครามยูเครน
Sberbank มีสาขาที่ดำเนินกิจการในเยอรมนี ออสเตรีย โครเอเชีย และฮังการี รวมถึงประเทศอื่นๆ และมีทรัพย์สินในยุโรปมูลค่า 13 พันล้านยูโร (10.8 พันล้านปอนด์) ณ สิ้นปี 2020
ขณะนี้เพียงสาขาในสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้นที่ไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) และยังคงทำการปกติ
การประกาศถอนตัวของดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป สั่งปิด Sberbank Europe โดยเตือนว่า ธนาคารอาจล้มละลายกระแสเงินสดไหลออก เนื่องจากการรุกรานยูเครนของ ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ส่งผลให้ หุ้น Sberbank ที่จดทะเบียนในลอนดอน ร่วงลงมากถึง 95% หลังจากมีข่าวการปิดสาขาในยุโรป
เฟดขึ้นดอกเบี้ยแน่เดือนนี้ "พาวเวล"ชี้เร็วเกินไปประเมินผลสงครามยูเครน
เป็นอีกหนึ่งสัญญาณการล่มสลายของระบบการเงินและธนาคารของรัสเซีย หลัง สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป และสหรัฐฯ ได้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรและใช้มาตรการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเพื่อบีบกดดันเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของรัสเซีย รวมถึงตัดขาดระบบการชำระเงินของรัสเซีย จาก Swift และข้อจำกัดการดำเนินการของธนาคารกลางรัสเซีย
“ปธน.เซเลนสกี” ลั่นพร้อมสู้ไม่ถอย ขอยุโรปช่วยยูเครน
ทั้งนี้ Sberbank เป็นหนึ่งในรายชื่อธนาคารของรัสเซียที่เพิ่มลงในรายการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ
ในปี 2564 ธนาคาร Sberbank มีกำไรสุทธิ ที่ 1.25 ล้านรูเบิล (9.4 พันล้านปอนด์) เพิ่มขึ้น 64% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่เมื่อเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากนานาประเทศต่อไป สถานะทางการเงินของ ธนาคาร Sberbank คงไม่สามารถกลับไปสู่ระดับดังกล่าวได้อีก
5 ผลกระทบใหญ่ทั่วโลกที่ "ต้องรู้" หากรัสเซียบุกยูเครน
เรียบเรียงจาก : theguardian