ก.ล.ต.ระงับธุรกิจ บล.เอเชีย เวลท์ เหตุเงินกองทุนต่ำกว่า 0
ก.ล.ต.ระงับธุรกิจ บล.เอเชีย เวลท์ เหตุเงินกองทุนต่ำกว่า 0 พร้อมสั่งโอนบัญชีลูกค้าไป บล.อื่น
จากรณี บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด (บล.เอเชีย เวลท์) นำเงินของลูกค้าไปชำระค่าซื้อหลักทรัพย์กับสำนักหักบัญชี โดยที่ลูกค้าไม่ได้อนุญาต จำนวน 157.99 ล้านบาท
ก.ล.ต.ฟัน บล.เอเชีย เวลท์ ผิดอาญา พ.ร.บ.หลักทรัพย์ เอาเงินลูกค้าไปซื้อหุ้น
ก.ล.ต.ไม่ขยายเวลา บล.เอเชีย เวลท์ เกินกำหนดจ่ายเงินคืนลูกค้า
ต่อมา ก.ล.ต.กำหนดให้ บล. เอเชีย เวลท์ นำเงินของลูกค้าที่บริษัทนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์โดยที่ลูกค้าไม่ได้อนุญาต มาคืนภายในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2565 และระงับการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว และไม่ขยายเวลาเกินกำหนดจ่ายเงินลูกค้า
ล่าสุด บล.เอเชีย เวลท์ ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (Net Capital: NC) ได้ตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีเงินกองทุนต่ำกว่า 0 ติดต่อกันเกิน 5 วันทำการ นับตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2565
ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่ สธ. 64/2563 เรื่อง การคำนวณและการรายงานการคำนวณเงินกองทุนของผู้ประกอบธุรกิจและข้อกำหนดในกรณีที่ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนได้ บล.เอเชีย เวลท์ ต้องดำเนินการตามที่กำหนดในประกาศดังกล่าว ซึ่งรวมถึงกรณีดังต่อไปนี้
1. ระงับการดำเนินธุรกิจทุกประเภทจนกว่าจะสามารถดำรงเงินกองทุนได้และได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ให้ดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ เว้นแต่เข้ากรณียกเว้นตามที่ประกาศกำหนด เช่น เป็นการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงโดยรวมในเงินลงทุนของบริษัทหรือการดำเนินการตามภาระผูกพันที่ค้างอยู่
ระงับธุรกิจชั่วคราว บล.เอเชีย เวลท์ จำกัด ยักยอกเงินลูกค้า 157.99 ล้านบาท
หรือการดำเนินการตามความจำเป็นและสมควรเพื่อป้องกันมิให้มูลค่าทรัพย์สินของลูกค้าได้รับความเสียหาย เช่น การล้างฐานะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามคำสั่งของลูกค้า หรือเพื่อเปลี่ยนตราสารที่ครบกำหนดไถ่ถอนกับผู้ออกตราสารดังกล่าว เป็นต้น
2. ล้างฐานะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีไว้เพื่อตนเอง เว้นแต่เป็นกรณีที่มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ป้องกันความเสี่ยง
3. โอนทรัพย์สินของลูกค้าในบัญชีเงินสดไปยังผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์อื่นเพื่อการเก็บรักษาทรัพย์สินของลูกค้า และโอนทรัพย์สินและฐานะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของลูกค้าไปยังผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้ารายอื่นตามที่ลูกค้าแจ้งความประสงค์ไว้ ให้แล้วเสร็จภายใน 10 วันทำการ นับตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565
4. แจ้งให้ลูกค้าทราบเป็นลายลักษณ์อักษรถึงการดำเนินการที่เกี่ยวข้องข้างต้นโดยไม่ชักช้า หากมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นจากการดำเนินการตามข้อ (3) ให้บริษัทเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายนั้น