ก.ล.ต.เพิกถอน 10 ปี ผู้แนะนำการลงทุนกรุงเทพประกันชีวิต ทุจริตเงินลูกค้า
ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนผู้แนะนำการลงทุน ขณะกระทำผิดสังกัดบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดยมีพฤติกรรมยักยอกเงินลูกค้า ปลอมลายเซ็น รวมถึงไม่นำส่งค่าเบี้ยประกันชีวิต เสียหายเกือบ 11 ล้าน
สัญญาณหยุดขึ้นดอกเบี้ยครึ่งหลังปี 66 กลยุทธ์ลงทุนแนะถือเงินสดไว้ก่อน
เปิดโผ 12 หุ้นไทย รับข่าวดีหนุน ของขวัญปีใหม่รัฐบาล-ซาอุฯลงทุน 3 แสนล้าน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับรายงานการตรวจสอบจากบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า ในปี 2557 – 2561 นางสาวปวีรญา มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
โดยในฐานะผู้แนะนำการลงทุนได้รับเงินค่าซื้อกองทุนรวมจากผู้ลงทุน 2 ราย แต่ไม่ทำรายการซื้อตามความประสงค์ของลูกค้า นำเงินบางส่วนไปใช้ส่วนตัว และแก้ไขยอดซื้อกองทุนในสมุดบัญชีกองทุนให้ตรงกับจำนวนเงินที่ลูกค้าประสงค์ลงทุน ปลอมลายมือชื่อผู้ลงทุนเพื่อสั่งขายหน่วยลงทุนหลายครั้ง
เมื่อเงินค่าขายกองทุนโอนเข้าบัญชีผู้ลงทุน นางสาวปวีรญาจะแจ้งว่าเป็นผลตอบแทนจากการลงทุนและพาผู้ลงทุนไปถอนเงิน พร้อมกับขอแบ่งเงินบางส่วนโดยอ้างว่าจะนำไปลงทุนต่อ แต่กลับไปซื้อหุ้นในนามตนเอง ทั้งนี้ ภายหลังจากที่บริษัทตรวจพบ บริษัทได้ชดใช้เงินแก่ลูกค้ารวมจำนวน 10,717,178.68 บาท
นอกจากนี้ ในฐานะตัวแทนประกันชีวิตมีพฤติกรรมไม่สุจริต โดยรับเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตจากลูกค้าอีกหนึ่งรายจำนวน 215,000 บาท แต่ไม่นำส่งให้บริษัท
ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า นางสาวปวีรญาในฐานะผู้แนะนำการลงทุนไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน โดยกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน และในฐานะตัวแทนประกันชีวิตมีพฤติกรรมอันส่อไปในทางไม่สุจริตที่ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ก.ล.ต. จึงเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 1และกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบของนางสาวปวีรญาเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2565
ทั้งนี้ ในการพิจารณากำหนดระยะเวลาข้างต้น ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาของ ก.ล.ต. ด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบ ความเสียหายหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน
อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต. ขอเตือนให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในการลงทุน โดย ก.ล.ต. พบว่า กรณีทุจริตจากการลงทุน มักเกิดจากการที่ผู้ลงทุนไว้วางใจในตัวผู้แนะนำการลงทุนจนละเลยการตรวจสอบรายการธุรกรรมและยอดเงินลงทุนของตนเอง ดังนั้น ก.ล.ต. จึงขอย้ำให้ผู้ลงทุนคอยหมั่นดูแลและติดตามการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ และควรโอนเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนเข้าบัญชีของผู้ประกอบธุรกิจแทนการมอบเงินให้ผู้แนะนำการลงทุนดำเนินการแทน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ และหากมีข้อสงสัยควรติดต่อบริษัทผู้ให้บริการ หรือสอบถามได้ที่ “ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต.” โทร. 1207 หรือเฟซบุ๊กเพจ “สำนักงาน กลต.” หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.