เปิด 10 อันดับ เศรษฐีหุ้นไทยปี 65 “สารัชถ์” เจ้าพ่อ GULF รั้งแชมป์ รวย 2 แสนล้านบาท

เปิดชื่อ 20 เมืองสุดร่ำรวยปี 2565 มหาเศรษฐีย้ายเข้าอยู่มากสุดในโลก

รู้ไว้ใช่ว่า เผื่อเป็นเศรษฐี ถูกแจ็กพอตพาวเวอร์บอลสหรัฐ เสียภาษีเท่าไร?

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 65 วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยประจำปี 2565 โดยวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศ ที่ถือหุ้นสูงสุด 10 อันดับแรก ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาด mai ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2565

โดยแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2565 คือ สารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ซึ่งครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 4  ถือหุ้นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวม 218,981.58 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 45,881.86 ล้านบาท หรือ +26.51% ซึ่ง สารัชถ์ ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ GULF สัดส่วน 35.55%

ทั้งนี้ สารัชถ์ ก้าวเข้ามาเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยครั้งแรกเมื่อปี 2562 ถือหุ้นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 มีความมั่งคั่งรวม 120,959.99 ล้านบาท ต่อมาในปีที่ 2 ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเป็น 115,289.99 ล้านบาท และทะยานสู่ 173,099.73 ล้านบาท จนกระทั่งในปี 2565 ความมั่งคั่งของสารัชถ์ พุ่งถึง 218,981.58 ล้านบาทถือเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยคนแรก ที่มีความมั่งคั่งในระดับ 2 แสนล้านบาท

 

เศรษฐีหุ้นอันดับ 2 นี้ ได้แก่ ปณิชา ดาว ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 ของ บมจ.พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น (PSG) ในสัดส่วน 80% รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 81,630.58 ล้านบาท

ซึ่ง PSG เดิมชื่อ บริษัทที เอ็น จิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ T ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอาคารโรงงาน คลังสินค้า อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า อาคารที่พักอาศัย โรงพยาบาล รวมถึงงานสาธารณูปโภค และงานติดตั้งเครื่องจักรมากว่า 40 ปี ต่อมาบริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนครั้งใหญ่ ออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 54,044 ล้านหุ้น ขายนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ในราคาหุ้นละ 0.02 บาท

ซึ่งกลุ่มทุนจาก สปป.ลาว นำโดย ปณิชา ดาว ภรรยาของ เดวิด แวน ดาว ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท พีที จำกัดผู้เดียว (PTS) ที่ถือหุ้นใน บริษัท หลวงพระบาง พาวเวอร์ จำกัด ผู้พัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง ที่ สปป.ลาว เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มใหม่ แล้วเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บมจ.พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น หรือ PSG มี แวน ฮวง ดาว นั่งเป็นประธานกรรมการ และ เดวิด แวน ดาว เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

 

 

เศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ได้แก่ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือ หมอเสริฐ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ขยับลงจากอันดับ 2 เมื่อปีที่ผ่านมา โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 62,735.68 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 4,517.85 ล้านบาท หรือ +7.76% หุ้นที่ หมอเสริฐ ถือครอง ประกอบด้วย บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เจ้าของเครือข่ายโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพ, สมิติเวช, บีเอ็นเอช, พญาไท, เปาโล ในสัดส่วน 12.77% และ บริษัท การบินกรุงเทพ(มหาชน) หรือ BA  เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส สัดส่วน  11.38%

 

เศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ได้แก่ นิติ โอสถานุเคราะห์ ทายาทอาณาจักรโอสถสภา ตกจากอันดับ 3 เมื่อปีที่แล้ว โดยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรกใน 8 บริษัท รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 58,124.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,870.84 ล้านบาท หรือ +3.33%

 

เศรษฐีหุ้น อันดับ 5 ได้แก่ สมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ประกอบกิจการธุรกิจพลังงาน จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ตกจากอันดับ 4 เมื่อปีที่แล้ว โดยหุ้น EA ที่ถือครองในสัดส่วน 11.05% มีมูลค่ารวม 36,366.27 ล้านบาท รวยลดลง 16,660.08 ล้านบาท หรือ +31.42%

 

เศรษฐีหุ้น อันดับ 6 ได้แก่ ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม 1 บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ทายาทหมอเสริฐ เข้ามาติดทำเนียบ TOP 10 เศรษฐีหุ้นไทย จากอันดับ 21 เมื่อปีที่แล้ว

นอกเหนือจากหุ้น BDMS ที่ถือในสัดส่วน 5.08% และ BA 6.49% ปีนี้ ปรมาภรณ์ ยังถือหุ้น บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE เพิ่มขึ้นอีก เป็นหุ้นที่เพิ่ง IPO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อ พ.ย. 64  โดยถือหุ้น ONEE สูงเป็นอันดับ 1 ในสัดส่วน 40.04% ส่งผลให้ปีนี้ความมั่งคั่งของ ปรมาภรณ์ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 35,001.87 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 20,950.06 ล้านบาท หรือ +149.09%

 

เศรษฐีหุ้นอันดับ 7 และ 8 ได้แก่ สองเจ้าของ บริษัท เมืองไทยแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ชื่อเดิมคือ เมืองไทยลิสซิ่ง โดย ชูชาติ เพ็ชรอำไพ อยู่ในอันดับ 7 ตกจากอันดับ 6 เมื่อปีที่แล้ว ถือครองหุ้น MTC ในสัดส่วน 33.49% และหุ้นของอีก 5 บริษัทรวมมูลค่าทั้งสิ้น 26,518.07 ล้านบาท ลดลง 15,133.90 ล้านบาท หรือ -36.30%

ขณะที่ ดาวนภา เพ็ชรอำไพ ปีนี้อยู่ในอันดับ 8 จากอันดับ 5 เมื่อปีที่แล้ว ถือหุ้น MTC ในสัดส่วน 33.96% มูลค่า 26,100 ล้านบาท ลดลง 15,840.00 ล้านบาท หรือ -37.77%

 

เศรษฐีหุ้นอันดับ 9 ได้แก่ อนันต์ อัศวโภคิน บิ๊กอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่แบรนด์ “แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” ขยับขึ้นมาจากอันดับ 12 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือหุ้น บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ในสัดส่วน 23.93% มูลค่า 25,454 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,717 ล้านบาท หรือ +11.95%

 

 

เศรษฐีหุ้นอันดับ 10 ได้แก่ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 22,702.45 ล้านบาท ลดลง 1,929.78 ล้านบาท หรือ -7.83% ประกอบด้วย หุ้น BTS 20.23% กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) 2.14% และ บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ (มหาชน) หรือ NINE 4.31%