เปิด 4 ธีมการลงทุนปี 2566 เกาะเทรนด์การเติบโตโลก ลดเสี่ยงพอร์ตหุ้น
เปิดธีมการลงทุนที่น่าสนใจในปี 2566 เกาะกระแสการเติบโตโลกในอนาคต ลดความเสี่ยงและผันผวนของพอร์ตหุ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ
แนวโน้มหุ้นไทยปี 2566 โบรกฯมองเป้า 1,800 จุด รับท่องเที่ยวฟื้น-เงินทุนไหลเข้า
ส่อง 'รถใหม่ปี 2566' แบรนด์ ญี่ปุ่น-จีน-ยุโรป เปิดตัวรุ่นใหม่ลุยตลาด
เศรษฐกิจ ปี 2566 จะเป็นปีที่ยากลำบาก เมื่อมหาอำนาจล้วนอ่อนแอ
สถานการณ์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันยังคงมีความไม่แน่นอน ด้วยปัจจัยสงครามรัสเซียและยูเครน เงินเฟ้อสูง การขึ้นดอกเบี้ยของเหล่าธนาคารกลาง และความกังวลด้านภาวะถดถอยทั่วโลกที่คาดว่ากำลังจะเกิดขึ้นในปี 2566 ซึ่งทั้งหมดนี้ได้สร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นอย่างหนักหน่วง
เพราะฉะนั้นนักลงทุนต้องจัดพอร์ตลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และเตรียมรับมือกับความผันผวนในอนาคต ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ย งและรักษาผลตอบแทนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเลือกสินทรัพย์ลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างพอร์ตลงทุนให้ยั่งยืนมากขึ้น
ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้เปิดเผยธีมการลงทุนอย่างยั่งยืนที่น่าสนใจในปี 2566 ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและความผันผวนของพอร์ตลงทุน ประกอบด้วย
1.ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน จากการคาดการณ์ขององค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) พบว่า พลังงานหมุนเวียนจะมาเป็นแหล่งพลังงานหลักแทนที่ถ่านหินในการผลิตไฟฟ้าทั่วโลกในปี 2568 และคิดเป็น 1 ใน 3 ของพลังงานทั้งหมด โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ต้นทุนแผงโซลาร์เซลล์ลดลงถึง 82%
โดยมองว่าต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และลมจะลดลง 40 – 50% ในอีก 10 ปีข้างหน้า จากเทคโนโลยีการแข่งขันและการประหยัดจากขนาดการผลิต ซึ่งในกลุ่มนี้โรงไฟฟ้าในยุโรปมีเสถียรภาพและงบดุลแข็งแรงที่สุด ส่วนสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มการเติบโตสูงที่สุด
2. รถยนต์ไฟฟ้าและห่วงโซ่อุปทาน โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) และ ดีลอยท์ (Deloitte) ประเมินว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 18% และ 29% ในอีก 10 – 20 ปีข้างหน้า และจะมีอัตราเร่งตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป โดยภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตสูง คือ จีน และยุโรป ซึ่งการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าและห่วงโซ่อุปทานนั้นมีตั้งแต่ผู้ผลิตรถยนต์ ผู้ผลิตแบตเตอรี่ ผู้ผลิตชิ้นส่วนในแบตเตอรี่ การรีไซเคิลแบตเตอรี่
3. ความมั่นคงทางอาหาร โดยสงครามรัสเซีย – ยูเครน ได้สร้างผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรทั่วโลก และทำให้พืชผลสำคัญลดลง ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้น สิ่งนี้ได้ผลักดันให้ผู้นำเข้ากระจายแหล่งอุปทาน และมองหาแนวทางแก้ไขเพื่อเพิ่มผลตอบแทนด้วยการอาศัยเทคโนโลยีและเครื่องจักรมากขึ้น ขณะเดียวกัน บริษัทจำนวนมากเพิ่มการลงทุนในการผลิตหรือเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มขึ้น
ดังนั้น ความมั่นคงทางอาหารจึงมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป ทั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การแข่งขันทางการค้าในหลายประเทศ รวมถึงจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ความต้องการปริมาณอาหารเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นธุรกิจอาหารมีบทบาทเพื่อเพิ่มปริมาณอาหารให้มีความเพียงพอกับประชากรโลก
4. การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ภายหลังปี 2563 โลกเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบในแทบทุกอุตสาหกรรม ทำให้ผู้คนต้องเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต ทั้งเป็นการทำงานจากที่บ้าน การช้อปปิ้งออนไลน์ การทำธุรกรรมทางการเงิน และการศึกษาออนไลน์ ทำให้การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมาก และมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนจากทั่วทุกมุมโลก ให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์มากขึ้น ซึ่งหมายความว่า องค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกจะจัดงบประมาณ เพื่อลงทุนด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เพิ่มสูงขึ้น ผลลัพธ์ คือ มูลค่าตลาดของธุรกิจด้านนี้จะเติบโตต่อเนื่อง