KBANK กำไรสุทธิปี 65 ดิ่ง 6% เหตุตั้งสำรองสูง 5 หมื่นล้าน รับมือ ศก.ถดถอย
ธ.กสิกรไทย (KBANK) เผยกำไรสุทธิปี 65 ลดลง -6% เหลือ 35,770 ล้านบาท เนื่องจากตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้นเป็น 51,919 ล้านบาท เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอนาคต ขณะที่ผลการดำเนินงานปกติยังคงเติบโตจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม มองเศรษฐกิจไทย ปี 66 ยังคงเปราะบาง ซึ่งถูกกดดันจากต้นทุน ค่าแรง เงินเฟ้อ ปัญหาค่าครองชีพ และดอกเบี้ย
BAY กำไรสุทธิปี 65 พุ่ง 20% จากตั้งสำรองลด-รายได้ดอกเบี้ยเพิ่ม
TISCO กำไรสุทธิปี 65 ที่ 7,221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4%
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK รายงานผลดำเนินงานประจำไตรมาส 4 ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 3,191 ล้านบาท ลดลง -67.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการดำเนินงาน 49,399 เพิ่มขึ้น +16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยส่งผลให้ตลอดทั้งปี 2565 KBANK มีกำไรสุทธิรวม 35,770 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนจำนวน 2,283 ล้านบาท หรือ -6.00% เป็นผลจากบริษัทฯ ตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในระดับสูง
เพื่อให้สอดคล้องกับหลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง และเหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ แต่ยังคงมีผลดำเนินงานเติบโตจากรายได้ดอกเบี้ย
ด้านรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ เท่ากับ 132,998 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13,608 ล้านบาท หรือ +11.4% จากปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อตามการเติบโตของเงินให้สินเชื่อใหม่ในกลุ่มลูกค้าบุคคล และกลุ่มลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี
ด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เท่ากับ 40,259 ล้านบาท ลดลง 3,700 ล้านบาท หรือ -8.42% จากปีก่อน ส่วนใหญ่เกิดจากค่าธรรมเนียมรับจากการจัดการกองทุน ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ และรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยที่ลดลงซึ่งเป็นไปตามสภาวะตลาด
ขณะที่ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ในปี 2565 เท่ากับ 51,919 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +28.73% จากปีก่อน เพื่อรองรับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอนาคต รวมทั้งการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยที่ยังคงเปราะบาง
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม 4,246,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2564 จำนวน 142,970 ล้านบาท หรือ +3.48% ขณะที่หนี้สิน เท่ากับ 3,679,289 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2564 จำนวน 112,565 ล้านบาท หรือ +3.16%
CIMBT กำไรปี 65 โต 24.3% ตั้งสำรองลด-รายได้ดอกเบี้ยร่วง
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในปี 2566 เนื่องจากธนาคารกลางของประเทศแกนหลักของโลกยังคงต้องคุมเข้มนโยบายการเงินต่อเนื่องเพื่อสกัดแรงกดดันเงินเฟ้อ แม้ว่าจีนจะเริ่มทยอยเปิดประเทศ แต่การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนอาจหนุนตลาดต่างชาติเที่ยวไทยได้เพียงในระดับหนึ่ง ทำให้การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวของไทยในปี 2566 จะยังไม่สามารถกลับเข้าสู่ระดับก่อนโควิด-19 ได้
ดังนั้น เส้นทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ยังคงมีความเปราะบาง และยังคงต้องติดตามแรงกดดันในส่วนของต้นทุนการผลิต ค่าจ้างแรงงาน อัตราเงินเฟ้อ ปัญหาค่าครองชีพ และอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่ยังขยับขึ้นต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ธนาคารและบริษัทย่อยจึงยังคงดำเนินธุรกิจตามหลักความระมัดระวังรอบคอบภายใต้ทิศทางภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน ในการเดินหน้าเชิงกลยุทธ์ด้วยการใช้เทคโนโลยี และกระบวนการใหม่ ๆ
ล่าสุดวันนี้ 20 ม.ค. 66 เวลา 9.00 น. หุ้น KBANK ราคาอยู่ที่ 153.50 บาทต่อหุ้น ปรับตัวขึ้นมาราว 8.4% จากช่วงเดือน ธ.ค. 65
อ่านฉบับเต็ม : นำส่งงบการเงินฉบับก่อนตรวจสอบสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565