เงินเฟ้อไทยต่ำสุดรอบ 9 เดือน - นักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่ง แนะหุ้นได้อานิสงส์
เงินเฟ้อไทยเดือน ม.ค.66 ลดเหลือ 5.02% ต่ำสุดในรอบ 9 เดือน หลังราคาพลังงานแผ่วลง กระทรวงพาณิชย์คาดปี 66 เงินเฟ้อจะเข้าสู่กรอบ 2-3% ขณะที่การท่องเที่ยวไทยยังฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังจากจีนเปิดประเทศ โบรกฯคาดปีนี้แตะ 25 ล้านคน พร้อมแนะหุ้นได้ประโยชน์
ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านนี้ "อ่อนเล็กน้อย" จับตาท่าทีประธานเฟดคืนนี้
“เซ็นทรัลรีเทล” มองค้าปลีกสัญญาณฟื้น อัดงบ 2.8 หมื่นล้าน ขยายสาขาไทย-เวียดนาม
เมื่อวานนี้ (6 ก.พ. 66) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขเฟ้อของไทย (CPI) เดือน ม.ค. 66 เพิ่มขึ้น +5.02% จากปีก่อนหน้า (YoY) ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 5.1% และปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้าจากระดับ+5.89% YoY ต่ำสุดในรอบ 9 เดือน หลังสถานการณ์ราคาพลังงานชะลอตัวลงเล็กน้อย และราคาสินค้าบางประเภทปรับตัวลดลง เช่น เนื้อหมู ผักสด ผลไม้ เป็นต้น
โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ที่ไม่รวมสินค้าในหมวดอาหารสดและพลังงาน ปรับลดลงมาอยู่ที่ +3.04% YoY ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 3.1% และปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ +3.23%YoY
ขณะที่ส่วนแนวโน้มเงินเฟ้อในเดือน ก.พ. คาดว่าจะขยายตัวในอัตราที่ลดลง จากปัจจัยด้านราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานลดลง อัตราเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตลดลง (PPI) การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก รวมถึงฐาน CPI ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าเพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ประเมินอัตราเงินเฟ้อปี 2566 อยู่ระหว่าง 2 – 3% ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจของไทย
ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส (ASPS) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงต่อเนื่อง และคาดว่าจะเข้ามาอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 1-3% ในปีนี้ บวกกับภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศกลับมาฟื้นตัวต่อเนื่อง
หากอิงข้อมูลการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน ม.ค. 66 อยู่ที่ 2 ล้านคน ฟื้นตัวสู่ระดับ 56% ของเดือน ม.ค. 62 โดยฝ่ายวิจัยคาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศช่วง ก.พ. – มี.ค. 66 มีโมเมนตัมต่อเนื่อง ภายหลังทัวร์จีนเริ่มออกเดินทางได้ตั้งแต่ 6 ก.พ. 66
อีกทั้งยังอยู่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวไทย หนุนแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติงวดไตรมาส 1 ปี66 เพิ่มขึ้น QoQ และ YoY อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยฯคาดการณ์นักท่องเที่ยวไทยปี 2566 ทยอยฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนโควิด ที่ 25 ล้านคน
ซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นในระยะถัดไป สำหรับหุ้นเด่น กลุ่มท่องเที่ยว เลือก AOT (FV@B80) ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานหลักของการท่องเที่ยวไทย, CENTEL ที่มีโรงแรมครอบคลุมประเทศที่ทางการจีนให้เดินทางแบบทัวร์ได้ทั้ง ไทย, มัลดีฟส์ และ UAE รวมทั้ง MINT(FV@B38) Catch – up play ตามกลุ่มฯ
นอกจากนี้การเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเอื้อต่อกำลังซื้อในประเทศผสานกับตัวเลขเงินเฟ้อ ม.ค. 66 ที่ทยอยลดลง มองบวกต่อหุ้นกลุ่ม Domestic Consumption แนะนำ NSL (FV@B28) ตามธีม Domestic Consumption และ Anti Commodities (ตามราคาน้ำมันดีเซลในประเทศลดลง 0.50 บาท ตั้งแต่ 15 ก.พ.66) และ M(FV@B65) มองทิศทางกำไรรายปีฟื้นตัวต่อเนื่อง
สำหรับประเด็นความกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (Fed) อาจกลับมาเร่งขึ้นดอกเบี้ย กดดันให้เม็ดเงินไหลกลับไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย หนุนดันชีเงินดอลลาร์ (Dollar Index) แข็งค่าขึ้น 1.8% อยู่ที่ 103.5 จุด ในทางกลับกันกดดันให้ค่าเงินหลายประเทศอ่อนค่าขึ้นเร็ว โดยเฉพาะค่าเงินบาทที่อ่อนค่าแรงสุดในภูมิภาค 2.14%
ขณะเดียวกันก็เห็นกระแสเงินทุน (Fund Flow) ที่ชะลอการไหลเข้าตลาดการเงินของไทยเช่นกัน โดยต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 7.3 พันล้านบาท (MTD) พร้อมกับขายตราสารหนี้ไทย 4.05 หมื่นล้านบาท (MTD)
ฝ่ายวิจัยฯประเมินว่า ค่าเงินบาทน่าจะมีแนวโน้มอ่อนค่าในช่วงสั้นๆ เท่านั้น แนวต้านที่ 34 บาท/เหรียญ และระยะถัดไปน่าจะได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงระยะกลางยาวค่าเงินดอลลาร์ยังมีโอกาสกลับมาแข็งค่าจากการใช้นโยบายการเงินที่เข้มข้นขึ้นของประเทศในตระกร้าค่าเงิน อาทิ ยุโรป, อังกฤษ เป็นต้น และยังคงเชื่อว่า Fund Flow จะยังไหลกลับเข้ามาในระยะถัดไป กลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นเปิดเมืองผันผวนต่ำ ราคาย่อตัวลงมาระดับหนึ่ง อย่าง CRC, BEM และหุ้นได้ประโยชน์จากบาทอ่อน NER เป็น Top pick