STARK ลุยสอบงบการเงินยกใหญ่ ผุดแผนเรียกความเชื่อมั่นผู้ถือหุ้น ก่อนปลด SP 1 มิ.ย.นี้
“วนรัชต์” รักษาการซีอีโอ STARK ชี้แจงตลาดฯ ก่อนหุ้นปลด SP ชั่วคราว 1-30 มิ.ย. 66 เปิดแผนแนวทางแก้ไขเรียกคืนความเชื่อมั่นผู้ถือหุ้น จ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 67.1 ล้านบาท เร่งปิดงบการเงินปี 65 คาดเสร็จกลางเดือน มิ.ย. นี้ เผยเตรียมจ้างผู้เชี่ยวชาญเพิ่ม ทำ Special audit ขยายผลสอบงบการเงิน
นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำงบการเงินประจำปี 65 และการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special audit)
โดยระบุว่า ผู้บริการชุดปัจจุบันได้ให้ความร่วมมือ และทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้สอบบัญชี ในการร่วมวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน และบัญชีของบริษัท ในการตรวจสอบบัญชีและจัดทำงบการเงินประจำปี 65
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะปลดเครื่องหมายห้ามซื้อ หรือขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว (เครื่องหมาย SP) ในวันที่ 1 มิ.ย. 2566 เพื่อเปิดการซื้อขายหุ้นของบริษัทระหว่าง 1-30 มิ.ย. 66 บริษัทได้เร่งสอบทานงบการเงินประจำปี 65 คาดว่าจะสามารถเปิดเผยข้อมูลได้ภายในวันที่ 16 มิ.ย. 66
โดยบริษัทได้ดำเนินการแนวทางแก้ไข เพื่อบรรเทาความกังวลและเรียกคืนความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุน โดยให้ความร่วมมือให้ข้อมูลที่จำเป็นเพื่อจัดประชุมผู้ถือหุ้น และชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัท รวมถึงจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 67.1 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังตั้งสายด่วย และเร่งจัดทำงบประจำปี 65
เสี่ยงถูกเพิกถอน ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์อ้างอิง STARK พิษบริษัทฯไม่ส่งงบ
ก.ล.ต. สั่งตรวจสอบกรณีพิเศษ STARK ชี้แจงใน 7 วัน หลังผู้สอบบัญชีพบธุรกรรมผิดปกติ
ทั้งนี้การตรวจพบธุรกรรมที่อาจมีความผิดปกติโดยผู้สอบบัญชี ที่อาจเข้าข่ายทุจริต หรือทำให้บริษัทเสียหายเกิดขึ้น คณะกรรมการและผู้บริหารชุดปัจจุบัน ไม่ได้นิ่งนอนใจและจะดำเนินการที่จำเป็นเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัท ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกราย
สำหรับการใช้เงินจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคุลในวงจำกัด (PP) จำนวน 5,580 ล้านบาท บริษัทได้บอกเลิกสัญญาเข้าซื้อหุ้นในบริษัท LEONI Kabel GmbH และอยู่ระหว่างพิจารณาเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินดังกล่าวให้เหมาะสม
นอกจากนี้บริษัทยังได้รับทราบข้อสังเกตของ สำนักงาน ก.ล.ต. เกี่ยวกับขอบเขตการตรวจสอบกรณีพิเศษในปัจจุบัน อาจทำได้รับข้อเท็จจริงไม่เพียงพอที่จะสรุปผลกระทบต่อความถูกต้องของข้อมูลงบการเงิน
อย่างไรก็ตาม บริษัทยินดีจะจ้างผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม และอยู่ระหว่างการว่าจ้างผู้สอบบัญชีที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีที่เป็นหนึ่งในสำนักงานสอบบัญชีขนาดใหญ่ เพื่อทำการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม ควบคู่ไปกับการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษของผู้สอบบัญชีเดิม โดยจะแจ้งให้ทราบถึงความคืบหน้าในส่วนนี้เพิ่มเติมภายใน 15 มิ.ย. 2566