CPALL ไตรมาส 2 กำไรโต 47.7% ที่ 4,438 ล้านบาท ธุรกิจร้านสะดวกซื้อยอดขายเพิ่ม
บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ประกาศงบไตรมาส 2 ปี 66 มีกำไรเติบโต 47.7% ที่ 4,438 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในกลุ่มธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ พร้อมวางงบลงทุนขยายสาขาปีนี้ 13,000 ล้านบาท ล่าสุดมีร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศรวม 14,215 สาขา ในจำนวนนี้ราว 50% เป็นร้านสาขาของบริษัทเอง
CPALL รับเศรษฐกิจฟื้น กำไรสุทธิ 13,272 ล้านบาท โต 2.2% ปันผล 0.75 บาท
SIRI บ้านเดี่ยว-คอนโดฯขายดี ดันกำไรไตรมาส 2 พุ่ง 77% ปันผล 0.10 บาท/หุ้น
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL รายงานผลดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 232,002 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 4,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 47.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยสาเหตุหลักมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของรายได้การขายและบริการในธุรกิจร้านสะดวกซื้อ รวมถึงธุรกิจแม็คโคร ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการบริโภคในประเทศ
ด้านกำไรขั้นต้น เท่ากับ 49,561 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 22% เพิ่มขึ้นจาก 21% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ มีรายได้เท่ากับ 102,481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.1% สาเหตุมาจากการบริโภคในประเทศฟื้นตัว รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวสูงขึ้น ส่งให้ไตรมาสนี้มียอดขายเฉลี่ย 83,558 บาทต่อร้านต่อวัน มียอดซื้อราว 84 บาทต่อบิล และมีลูกค้าเฉลี่ย 995 คนต่อสาขาต่อวัน
ขณะเดียวกันธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ยังมีรายได้อื่น 5,980 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.9% จากการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ของสาขา
ล่าสุดร้านสะดวกซื้อ มีสาขาเปิดใหม่รวม 168 สาขา ส่งผลให้สิ้นไตรมาส 2 มีร้านสาขาทั่วประเทศรวม 14,215 สาขา แบ่งเป็นร้านสาขาของบริษัท 7,133 สาขา คิดเป็นสัดส่วน 50% ของสาขารวมทั้งหมด ที่เหลือเป็น Store Business Partner (SBP) และร้านที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต 7,082 สาขา คิดเป็นสัดส่วน 50% ของสาขารวมทั้งหมด
เมื่อรวม 6 เดือนแรกของปี 66 บริษัทมีรายได้รวม 454,322 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิรวม 8,561 ล้านบาท เติบโต 32.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ณ วันที่ 30 มิ.ย. 66 บริษัมมีสินทรัพย์รวม 8.92 แสนล้านบาท ลดลง 3.4% จากสิ้นปี 65 และมีหนี้สินรวม 6 แสนล้านบาท ลดลง ลดลง 5.2% จากสิ้นปี 65 โดยมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ที่ 4.07 หมื่นล้านบาท ลดลง 42% จากสิ้นปี 65
สำหรับในปี 66 บริษัทวางแผนลงทุนเปิดร้านสาขาใหม่ในไทยอีก 700 สาขา และในกัมพูชาให้ครบ 100 สาขา รวมถึงเปิดสาขาแรกใน สปป.ลาว คาดใช้งบลงทุนประมาณ 12,000-13,000 ล้านบาท
ล่าสุดหุ้น CPALL เปิดตลาดเช้าวันที่ 15 ส.ค. 66 ราคาอยู่ที่ 61.75 บาทต่อหุ้น ปรับเพิ่มขึ้นมากว่า 4% ในช่วง 4 วันทำการที่ผ่านมา และทำราคาสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : อธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2566