มองหาหุ้นปันผล สร้างรายได้ประจำแบบ Passive Income สบายใจระยะยาว
ลงทุนหุ้นปันผล สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอได้ และเป็นหุ้นที่นิยมในวงกว้างของนักลงทุนเป็นการลงทุนในบริษัทที่สามารถจ่ายเงินปันผลได้สม่ำเสมอ ในอัตราที่เติบโต ซึ่งมาจากการเติบโตของกิจจาที่ต่อเนื่องและมีระยะยาว การถือหุ้นปันผลจะถือแบบยาวๆ ไม่จำเป็นต้องขายหุ้นออก โดยเฉพาะในช่วงที่หุ้นมีความผันสูง
ฐิติเมธ โภคชัย ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า หากอธิบายให้ชัดคือ หมายความว่า หุ้นปันผลจะสร้างรายรับได้โดยไม่ต้องคอยจับจังหวะในการซื้อขายหุ้นตลอดเวลา สามารถสร้างผลตอบแทนได้จากปันผลแม้จะอยู่ในช่วงตลาดขาลงหากบริษัทมีศักยภาพในการกำไร
สะท้อนให้เห็นว่าเป็นหุ้นที่มีความผันผวนน้อยกว่าหุ้นที่ไม่จ่ายเงินปันผล ขณะเดียวกันการเก็บหุ้นปันผลส่วนใหญ่จะเก็บไว้ในในช่วงตลาดเป็นขาลงหรือภาวะเศรษฐกิจซบเซา เพราะถึงแม้ราคาหุ้นจะมีโอกาสปรับลดลงแต่ก็ยังได้ผลตอบแทนจากเงินปันผล

สำหรับหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ เหมาะสมกับนักลงทุนประเภทไหน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า เหมาะกับนักลงทุนระยะยาว เนื่องจากหุ้นที่พื้นฐานธุรกิจดีมีอนาคตเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงควรมีช่วงระยะเวลาเพียงพอที่จะรอให้กิจการเติบโต และรอเก็บผลตอบแทนจากเงินปันผลในอนาคต อีกทั้งยังเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการสภาพคล่อง เพราะเงินปันผลที่นักลงทุนได้รับจะช่วยสร้างสภาพคล่องระหว่างการถือครองหุ้นของนักลงทุนอีกด้วย หากต้องการผลตอบแทนสม่ำเสมอเป็นเงินสดทุกๆ ปี ในรูปของ Passive Income
แล้วจะเลือกลงทุนในหุ้นปันผลอย่างไร?
STORIES & TIPS ธนาคารไทยพาณิชย์ โดย นิภาพันธ์ พูนเสถียรทรัพย์ นักวางแผนการเงินอิสระ นักเขียนและวิทยากร ระบุว่า การคัดเลือกหุ้นปันผล แนะนำให้พิจารณา 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่
- ควรเป็นกิจการที่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง เป็นผู้นำในธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ มีแบรนด์หรือตราสินค้าที่เป็นที่จดจำของลูกค้า ที่สำคัญเราต้องรู้จักและเข้าใจในธุรกิจที่เรากำลังลงทุนด้วย
- มีความสม่ำเสมอในการจ่ายเงินปันผล ซึ่งสะท้อนถึงนโยบายและความเคร่งครัดของบริษัทในการจ่ายเงินปันผล โดยอาจดูได้จากข้อมูลการจ่ายเงินปันผลในอดีต ซึ่งสามารถดูข้อมูลการปันผลย้อนหลังของหุ้นได้ที่หน้า “สรุปข้อสารสนเทศ” ในเว็บไซต์ของทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หุ้นปันผลที่ดีนอกจากปันผลอย่างต่อเนื่องแล้วควรปันผลมากขึ้นด้วย เช่น จากข้อมูลย้อนหลัง ปีแรกปันผล 1 บาท ปีที่สองควรปันผล 1.10 บาท และปีที่สามควรปันผล 1.20 บาท เป็นต้น เพราะหากกิจการสามารถจ่ายเงินปันผลที่มากขึ้น นั่นหมายถึงสุขภาพทางการเงินและการดำเนินงานของบริษัทมีแนวโน้มการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้นักลงลทุนมีความอุ่นใจในระดับหนึ่ง
- ต้องอย่าลืมว่าการลงทุนในหุ้นปันผลคือการลงทุนระยะยาว เป็นการให้เงินทำงานแทนเรา นอกจากนี้มักจะพบว่าหลังจากที่บริษัทจ่ายเงินปันผลออกมา หุ้นจะมีราคาตกลงมาเท่ากับหรือมากกว่าเงินปันผลที่เราได้ (การจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น คือการจ่ายเงินมาจากกำไรสุทธิ หรือกำไรสะสม ทำให้เงินสดในกิจการลดลง ส่งผลให้ราคาหุ้นอาจลดลงได้) ดังนั้นถ้าเราหวังแค่เงินปันผลระยะสั้น อยากซื้อหุ้นเพื่อรับเงินปันผลแล้วขายเลย อาจทำให้เราขาดทุนที่ราคาหุ้นแทน
ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย / ธนาคารไทยพาณิชย์