ปรับเงื่อนไขThaiESG เป็นบวกต่อตลาด คาดดัชนีหุ้นไทยขยับ 10 - 20 จุด
บล.พาย มอง ปรับเงื่อนไข ThaiESG เป็นบวกต่อตลาด คาดดัชนีหุ้นไทยขยับ 10 - 20 จุด แนะเร่งเพิ่มผลิตภาพระยะยาว จับเทรนอีวี -AIดันเศรษฐกิจไทยฟื้น
นายณัฐพล จันทร์สิวานนท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหารสูงสุดด้านการลงทุนบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) มองว่า การปรับเงื่อนไข การลงทุนใน กองทุน ThaiESG สามารถลดหย่อนภาษีได้ สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท จากเดิม 100,000 บาท และลดระยะเวลาการถือครองลงเหลือ 5 ปีจากเดิม 8 ปี ส่งผลเชิงบวกต่อภาพรวม การลงทุนกับตลาดในประเทศ ทำให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาด
คาดว่าจะทำให้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมา 10-20 จุด ช่วยพยุงตลาดให้เดินต่อได้ดีขึ้นมากกว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ที่ต่างชาติเทขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลังยังมีความหวัง
ส่วนทิศทางตลาดหุ้นไทย ในช่วงครึ่งปีหลัง นายณัฐพล มองว่า ยังเป็นตลาดที่มีความหวัง แม้สถานการณ์จะไม่สู้ดี มีความหวังจากมาตรการภาครัฐที่จะลงมากระตุ้นเศรษฐกิจ ให้สามารถ ฟื้นตัวได้ ขณะเดียวกันหากธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟด อาจทำให้เม็ดเงินที่ไหลออกจากตลาดหุ้นไทยชะลอตัวลงและมีเม็ดเงินบางส่วน ไหลกลับเข้ามาลงทุนได้เช่นกัน กรอบการลงทุน อยู่ระหว่าง 1,300-1,400 จุด
ขณะเดียวกัน ยังมองว่า หากรัฐบาลอยากจะให้เศรษฐกิจภาพใหญ่ในระยะยาวฟื้นตัว จะต้องเร่งสร้าง ผลิตภาพ หรือ Productivity มากขึ้นโดยเฉพาะการจับเทรนด์เรื่อง รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมา ซึ่งไทยมีศักยภาพและเป็นหนึ่งในห่วงโซ่การผลิตรถยนต์อยู่แล้ว หากดึงอุตสาหกรรม ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่เข้ามาได้ ก็จะช่วยทำให้เกิดการลงทุนเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงกระแสเทคโนโลยี AI จะสามารถพลิกโฉมอุตสาหกรรมในประเทศจากอุตสาหกรรมเก่าไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ได้
ตลาดโลกให้น้ำหนัก 3 ปัจจัย
ส่วนที่ทางการลงทุน ในตลาดโลก ในช่วงครึ่งปีหลังยังคงให้น้ำหนัก 3 ปัจจัย คือ การปรับลดดอกเบี้ยของเฟด ที่คาดว่าในปีนี้อาจจะมีการปรับลดดอกเบี้ยลงถึง 2 ครั้ง จะส่งเสริมการลงทุนในตราสารหนี้ ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจสหรัฐ ยังเป็นการชะลอตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงปัจจัย จากการเลือกตั้งในสหรัฐฯ อาจจะทำให้ภาพรวมการลงทุนยังมีทิศทางที่ผันผวนอยู่บ้าง แล้วบอกว่า หากมีการ ลดดอกเบี้ยนโยบายจะทำให้กลุ่มตลาดในแถบเอเชียได้ประโยชน์โดยเฉพาะ ตลาดเกิดใหม่ เช่น อินเดีย เวียดนาม และไทย
ด้าน นางสาวณัชชา สุนทรธาราวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้บริหารสูงสุด ด้าน Private Wealth แนะนำว่า ควรหาจังหวะในการลงทุนที่เหมาะสม ในช่วงที่ตลาดผันผวน เปลี่ยนวิธีการลงทุนจากแบบดั้งเดิม ไปสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น และเริ่มมองหาโอกาสการลงทุนนอกตลาดประเทศไทย โดยเฉพาะตราสารหนี้ ที่ได้รับผลดีจากดอกเบี้ยสหรัฐ รวมทั้งมองหาการลงทุนทางเลือกใน ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพื่อรองรับความผันผวนจากตลาด เช่น การลงในกองทุนส่วนบุคคล Private credit
อุตุฯ เตือนฉบับ 10 กทม.-44 จังหวัดฝนตกหนัก ถึง 26 มิ.ย.
ก.ตร.จ่อเลื่อนวาระพิจารณา “บิ๊กโจ๊ก” หลังองค์ประชุมไม่ครบ
สรุปผลกลุ่ม C และ D ตารางคะแนน ยูโร 2024 (EURO 2024) ทีมใดเข้ารอบ