SET วันนี้ “ฟื้นจำกัด สัญญาณอ่อนแรง” รอความชัดเจนดิจิทัลวอลเล็ต
InnovestX วิเคราะห์ SET วันนี้ (24 ก.ค. 67) แม้มีโอกาสฟื้นตัวจากลงแรงเมื่อวานและปัจจัยหนุนดิจิทัลวอลเล็ต แต่สัญญาณยังอ่อนแรงคาดการฟื้นตัวถูกจำกัด
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) วิเคราะห์ SET วันนี้ (24 ก.ค. 67) แม้มีโอกาสฟื้นตัวจากลงแรงเมื่อวานและปัจจัยหนุนเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งรัฐบาลจะแถลงความคืบหน้าในวันนี้ อย่างไรก็ตามสัญญาณยังอ่อนแรงทำให้คาดการฟื้นตัวถูกจำกัด โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1310 และ 1320 จุดตามลำดับ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1294 จุด หากต่ำกว่าเป็นสัญญาณลบต่อและมีแนวรับถัดไปที่ 1287 จุด
ช่วงสั้นมอง SET ยังคงมี Upside จำกัด เนื่องจากยังรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศและรายละเอียดของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต อีกทั้งติดตามงบ 2Q67 ของ บจ.ไทยกลุ่ม Real Sector ซึ่งคาดจะฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนปัจจัยต่างประเทศคาดได้แรงหนุนจากสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ย โดยคาดดัชนี PCE และ PMI ของสหรัฐจะมีแนวโน้มชะลอตัวลง อีกทั้งงบ 2Q67 ของ บจ.ในสหรัฐน่าจะยังแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตามความคาดหวังต่อ Fund Flow ที่จะไหลกลับสู่ตลาด EM อาจยังจำกัดจากเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอและค่าเงินดอลลาร์ที่ยังไม่อ่อนค่าอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้สงครามเทคโนโลยีที่มีท่าทีรุนแรงขึ้นจะยังเป็นความเสี่ยงของตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
เงื่อนไขทั้งหมด ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ประกาศเปิดลงทะเบียนเริ่ม 1 ส.ค.2567
เช็กโปรแกรมกีฬาโอลิมปิก 2024 เวลาแข่งขัน Olympic 2024 วันที่ 24 ก.ค.67
เต็นท์รถชะลอรับซื้อ EV มือสอง หลังราคาลงแรงขายออกยาก
BEM 2Q67 คาดกำไรจะเติบโต 16.3%QoQ และ 9.4%YoY สู่ 985 ล้านบาท ส่วน 3Q67 คาดกำไรจะเติบโต QoQ และ YoY ต่อเนื่อง อีกทั้งมองมี Upside Risk เพิ่มเติมจากโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 (double deck) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ซึ่งเรายังไม่ได้นำมารวมไว้ในประมาณการ
CPALL 2Q67 คาดกำไรสุทธิ 5.8 พันล้านบาท เติบโต 31%YoY ดีสุดในกลุ่มพาณิชย์ หนุนจากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น รวมทั้งส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก CPAXT ส่วนแนวโน้มกำไร 2H67 คาดจะเติบโต YoY โดดเด่นมากกว่าบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มฯ เช่นกัน จากการเติบโตที่แข็งแกร่งทั้งจากธุรกิจ CVS และ CPAXT
ประเด็นสำคัญ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2%DoD หลังนายกฯ อิสราเอลระบุขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยสั่งให้คณะเจรจาของอิสราเอลทำการเจรจาหยุดยิงครั้งใหม่ในวันพรุ่งนี้
- ครม.เห็นชอบคงค่าไฟฟ้างวด ก.ย.-ธ.ค. 67 ที่ 4.18 บ./หน่วย และมีมาตรการดูแลค่าไฟฟ้าสำหรับกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือนที่ 3.99 บ./หน่วย อีกทั้งคงเพดานดีเซลไม่เกิน 33 บ./ลิตร
- กระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ เพิ่ม เพื่อดูแลอสังหาฯ ที่มียอดค้างสต๊อกจำนวนมาก โดยรอผ่านความเห็นชอบจาก ครม.
- วันนี้ติดตาม รมว.คลัง แถลงรายละเอียดการลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตในวันที่ 1 ส.ค. ขณะที่ รมว.พาณิชย์ ระบุแจกเงินดิจิทัล ต.ค. นี้ เตรียมผลักดันร้านค้าธงฟ้าเข้าร่วม 1.5 แสนร้านค้า และ 7-11 เข้าร่วมโครงการ
- วันนี้จับตาศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดีถอดถอนนายกฯ
- สมาคมโรงแรมไทยระบุสถานการณ์การท่องเที่ยว 1 ม.ค. - 14 ก.ค. 67 ดีกว่าปี 2566 จำนวน นทท. ต่างชาติกว่า 18 ล้านคน +34%YoY จำนวน นทท. สูงสุด 5 อันดับแรก คือ จีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ รัสเซีย
- สคร.ระบุกระทรวงการคลังได้พิจารณากรอบการขายหุ้นที่ถืออยู่นอก ตลท. เบื้องต้นมี 25 บาท มูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท โดยหุ้นบางตัวนอกจากจะไม่สร้างรายได้เพิ่ม ยังเป็นภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลอีกด้วย
- บราซิลประกาศพบการระบาดของโรคนิวคาสเซิลในสัตว์ปีกในรอบ 18 ปี ทำให้ได้ระงับและจำกัดการส่งออกอย่างสมัครใจ ทั้งเนี้เรามองหากยืดเยื้อมีแนวโน้มเป็นบวกต่อผู้ประกอบการส่งออกไก่จากไทย (GFPT, CPF, BTG) ซึ่งส่งออกไก่ไปยังญี่ปุ่น ยุโรป และจีน
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มองตลาดหุ้นไทยยังมี Upside จำกัด หลังรอความชัดเจนของปัจจัยต่าง ๆ ในประเทศและติดตามงบ 2Q67 ของ บจ.ไทย ส่วนสงครามเทคโนโลยีที่มีท่าทีรุนแรงขึ้นจะเป็นความเสี่ยงของตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม
- หุ้นกลุ่ม Earnings Play ซึ่งคาด 2Q67 กำไรจะยังสามารถเติบโตทั้ง YoY และ QoQ อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง เลือก MINT BEM OSP TU KCE CPF TRUE
- หุ้นที่คาดจะได้อานิสงส์ Cover Short หลัง ตลท.เริ่มใช้มาตรการ Uptick ตั้งแต่ 1 ก.ค. 67 และเป็นหุ้นพื้นฐานดีมี ESG Rating ระดับ A-AAA เลือก HANA TOP BEM MINT OSP BBL AOT
- หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากแผนปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG ใหม่ โดยขยายวงเงินเป็น 3 แสนบาทและลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี เลือก ADVANC AOT CPALL BDMS BBL KTB GULF
- ราคาน้ำมันดิบ Brent ฟื้นตัว แม้ความไม่สงบในตะวันออกกลางยังไม่กระจายออกในวงกว้าง แต่ยังมีการโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง และโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันในรัสเซียกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยประเมินกรอบราคา 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP