รู้จัก กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 คุ้มครองผลตอบแทนขั้นต่ำ
ฟื้น "กองทุนรวมวายุภักษ์ 1" เตรียมเปิดขายภายในเดือน ก.ย.นี้ เริ่มลงทุนได้ตั้งแต่ 5,000 บาท คุ้มครองผลตอบแทนขั้นต่ำด้วย ติดตามใน Money Trick
Money Trick วันนี้พามารู้จักกับอีกหนึ่งทางเลือกในการออม การลงทุน นั่นก็คือ กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง กองทุนนี้จัดตั้งขึ้นในปี 2546 เพื่อเพิ่มทางเลือกในการออม และการลงทุนให้แก่ประชาชน มีหน่วยลงทุน 2 ประเภท คือ ประเภท
- ก. สำหรับนักลงทุนทั่วไป
- ประเภท ข. คือ กระทรวงการคลัง
ก่อนที่จะมีการเพิกถอนหน่วยลงทุนประเภท ก. จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน หรือ นำกองทุนออกจากตลาดหุ้น ไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด กระทรวงการคลัง ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยว่ากำลังเตรียมที่จะกลับมาเสอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ให้แก่นักลงทุนทั่วไป นักลงทุนรายย่อยอีกครั้งหนึ่ง เริ่มลงทุนตั้งแต่ 5,000 บาท มีการคุ้มครองผลตอบแทนขั้นต่ำด้วย ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ภายในไตรมาส 3 หรือไม่เกินเดือนกันยายนนี้
เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกในการออมและการลงทุนให้กับประชาชน และฟื้นบรรยากาศการลงทุนท่ามกลางแนวโน้มตลาดหุ้นไทยที่ตกต่ำลง เนื่องจากว่าสถานการณ์ตลาดทุนไทยในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างผันผวน กระแสเงินทุนต่างชาติไหลออก โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย มูลค่ากว่า 530,000 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงมูลค่าการระดมทุนของตลาดตราสารทุนและตราสารหนี้ก็ชะลอตัวลง
กระทรวงการคลังจึงมองว่าการฟื้นกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ครั้งนี้ จะช่วยดึงสัดส่วนการลงทุนให้ไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทย สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
โดยกระทรวงการคลังตั้งเป้าในการระดมทุนประมาณ 100,000 – 150,000 ล้านบาท สำหรับนักลงทุนทั่วไป นักลงทุนรายย่อย ลงทุนขั้นต่ำคนละ 5,000 บาท ระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้น 10 ปี
จะได้รับเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ตามผลตอบแทนของกองทุน แต่จะได้ไม่น้อยไปกว่าผลตอบแทนขั้นต่ำ และไม่สูงเกินกว่าผลตอบแทนขั้นสูงที่กำหนดไว้ ซึ่งอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำและขั้นสูงจะเป็นอัตราคงที่ตลอด 10 ปี ส่วนจะกำหนดไว้ที่เท่าไหร่ จะถูกระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในเดือนกันยายนนี้
หลังจากเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ให้กับนักลงทุนทั่วไป ก็จะนำไปลงทุนในหลักทรัพย์ทั้งแบบเชิงรุก และเชิงรับ ซึ่งยังคงลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีอัตราผลตอบแทนดี มีความมั่นคงในระยะยาว โดยมีผู้จัดการกองทุนเป็น บลจ.กรุงไทย และ บลจ. MFC
สิ่งที่ต้องติดตามต่อหลังจากนี้จะมีการสำรวจความเห็นของนักลงทุนเพื่อกำหนดอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำและขั้นสูง รวมถึงหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และช่องทางการเสนอขาย ก่อนที่จะจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ภายในเดือนกันยายนนี้
BTC
ETH
DOGE
ADA
BNB
KUB