ส่องเศรษฐกิจไทย ไตรมาส 4 ยุควัฏจักรดอกเบี้ยขาลง คาดจีดีพีปีนี้โต 2.5%
ส่องเศรษฐกิจไทย ไตรมาส 4 ยุควัฏจักรดอกเบี้ยขาลง คาดจีดีพีปีนี้โต 2.5% ผลจากดิจิทัลวอลเล็ต 0.3%
บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจโลกและการลงทุนไตรมาส 4 ปี 2567 ว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มกลับมาชะลอตัวรอบใหม่ อัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลงถึงปี 2568 รวมถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจและการเมืองของสหรัฐฯ ที่ต้องจับตาในปี 2568 หลังทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. 2567 นี้ ส่งผลให้ตลาดการเงินโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว (DM) มีความผันผวนได้

อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ลดลง และ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีโอกาสช่วยหนุนความน่าสนใจของตลาดหุ้นในตลาดเกิดใหม่ (EM) รวมถึงตลาดหุ้นไทย ที่ยังได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการ Digital Wallet เฟส 1 ที่จะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ส่งผลให้คาดว่าบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้า ประเมินเป้าหมาย SET Index อยู่ที่ 1,500 จุด ภายในสิ้นไตรมาส 4 ปี 2567 และ 1,550 จุด ในปี 2568 หุ้นเด่น ได้แก่ BDMS CPALL GPSC HANA และ LHHOTEL
จับตาปัจจัยสำคัญไตรมาส 4 มีผลต่อเนื่องต่อเศรษฐกิจและการเมืองโลก
นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 คือ ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่าจะยังคงขยายตัวได้และไม่เกิดภาวะถดถอย ตามที่ตลาดกำลังคาดการณ์หรือไม่, ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องต่อเศรษฐกิจและการเมืองโลก เนื่องจากแนวนโยบายของทั้ง 2 พรรคแตกต่างกัน, ทิศทางธุรกิจเทคโนโลยีว่าจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตได้ต่อเนื่องหรือไม่ และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในด้านอื่น ๆ ต่อจาก Digital wallet คืออะไร
หุ้นไทยฟื้น “วิกฤตความเชื่อมั่นคลี่คลาย”
โดยมองว่าการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยในช่วง เดือน ส.ค - ก.ย. เนื่องจาก “วิกฤตความเชื่อมั่นคลี่คลาย” ส่งผลให้ราคาหุ้นกลับไปสะท้อนปัจจัยพื้นฐาน เห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายต่อวันเพิ่มขึ้นกว่า 30% จากค่าเฉลี่ย 8 เดือนของปี 2567 นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิต่อเนื่อง และทำให้ตลาดหุ้นไทยมีผลตอบแทนที่ใกล้เคียงตลาดหุ้นเพื่อนบ้านมากขึ้น รวมถึงผลจากกองทุนวายุภักษ์ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน
เช็กรัฐจ่าย 10,000 บาท โอนเงินเข้าบัญชี ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-ผู้พิการ
น้ำปิงเพิ่มสูงระดับสีเหลือง เตือน! ชาวเมืองเชียงใหม่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง
ทำความรู้จักฟุตซอลทีมชาติฝรั่งเศส คู่ต่อกรไทย รอบ 16 ทีมฟุตซอลโลก 2024
InnovestX
หุ้นเด่นไตรมาส 4/2567

มองเศรษฐกิจปีนี้มีโอกาสขยายตัวได้ 2.5% Digital Wallet ช่วย 0.3%
ด้านนายสุทธิชัย คุ้มวรชัย หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวว่า การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเป็นจุดเริ่มต้นให้ธนาคารกลางอื่น ๆ เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยตาม ช่วยหนุนความน่าสนใจของตลาดหุ้นในตลาดเกิดใหม่ (EM) รวมถึงประเทศไทย แนะนำให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจและการจ้างงานสหรัฐฯ หลังการลดดอกเบี้ย เศรษฐกิจของจีนที่อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายของทางการที่ 5% การเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจโลกและการเมืองระหว่างประเทศ สำหรับในประเทศไทย ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะเป็นตัวกำหนดความเคลื่อนไหวของ SET Index ในระยะถัดไป
ขณะที่นายปิยศักดิ์ มานะสันต์ หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวว่า ในไตรมาส 4 ปี 2567 เศรษฐกิจ ดอกเบี้ย และการเมืองโลกจะเข้าสู่ยุคใหม่ โดยเศรษฐกิจหลักจะชะลอตัวลง โดยเฉพาะภาคการผลิต ดอกเบี้ยจะเข้าสู่ยุควัฏจักรขาลง หลังจากเฟดลดดอกเบี้ยเชิงรุก พร้อมมองว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีโอกาสลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ และอีก 2 ครั้งในปีหน้า รวม 1.0% เพื่อสนับสนุนการเติบโต และจะช่วยลดการแข็งค่าของเงินบาทด้วยเช่นกัน
โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสขยายตัวได้ 2.5% โดยเป็นผลจากนโยบาย Digital Wallet 0.3% ขณะที่เศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.5%
เลือกตั้งสหรัฐฯ กดดันตลาดจะมีความผันผวนสูง ชี้เป้าหุ้นเด่น
นอกจากนี้ นายสิทธิชัย ดวงรัตนฉายา นักกลยุทธ์อาวุโสตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด เผยกลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 4 ปี 2567 คาดว่าตลาดจะมีความผันผวนสูงจากปัจจัยกดดันจากภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกตั้งสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามการลดดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลดีต่อตลาดเกิดใหม่ (EM) ที่เศรษฐกิจยังคงเติบโตดีเมื่อเทียบกับตลาดพัฒนาแล้ว (DM) ส่วนดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะช่วยหนุนให้เม็ดเงินไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ (EM) และประเทศไทย ด้านปัจจัยในประเทศยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการออกนโยบายเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของรัฐบาลใหม่ ทำให้ SET Index ยังจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ท่ามกลางความผันผวน ประเมินเป้าหมาย SET Index จะปรับตัวขึ้นและแตะระดับ 1,500 จุด ภายในสิ้นปี 2567 และ 1,550 จุดในปี 2568
ชี้เป้าหุ้นเด่น เน้นโฟกัสบริษัทที่ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและได้ประโยชน์จากการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัวด้วยแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และได้ประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ได้แก่ BDMS CPALL GPSC HANA และ LHHOTEL
“ในขณะที่หุ้นต่างประเทศภายหลังจากเฟดมีการปรับลดดอกเบี้ย เพื่อช่วยลดทอนผลกระทบจากเศรษฐกิจและการจ้างงานที่เริ่มชะลอตัวในภาวะที่เศรษฐกิจยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงยังคงมีความน่าสนใจ โดยหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาลง ได้แก่ กลุ่มซ่อมแซมตกแต่งบ้าน (HD, LOW) กลุ่มพลังงานสะอาด (FSLR, ENPH ) หุ้นที่มี Valuation ไม่แพงและปันผลสูง (VZ, PFE, F, TGT) หุ้นเทคโนโลยีที่ผลประกอบการยังมีแนวโน้มดี (MSFT, AMD, CRM, PANW, NVDA)“
ส่วนในตลาดยุโรปมองหุ้นที่เน้นไปยังพลังงานสะอาดและได้ Sentiment จากดอกเบี้ยขาลงอย่าง Iberdrola และ Enel ส่วนกลุ่มเทคโนโลยีเน้นไปที่กลุ่มที่อิงกับอุตสาหกรรมยานยนต์น้อยอย่าง ASML, SAP ในขณะที่ตลาดหุ้นจีนให้เน้นไปที่โครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรมใหม่อย่าง China Mobile, CATL, CRRC, SMIC และหุ้นที่มีพื้นฐานดีและผันแปรจากปัจจัยภายนอกน้อยอย่าง BYD, Luxshare, Tencent, Trip.com, Xiaomi
สำหรับหุ้นในตลาดเอเชียที่มีอัตราการเติบโตดีได้แก่ FPT, Hon Hai, Infosys, MediaTek, SK Hynix, TSMC
InnovestX
กองทุนดาวรุ่งไตรมาส 4/2567

สิ่งที่นักลงทุนต้องเผชิญในไตรมาส 4
ด้านนายวิศกรณ์ คีรีวรรณ, CFA, ผู้อำนวยการ Investment Strategist ฝ่าย Wealth Products & Strategy บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์การลงทุนในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 เต็มไปด้วยความผันผวนและคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในไตรมาสสุดท้ายของปี
โดยสิ่งที่นักลงทุนต้องเผชิญในไตรมาส 4 คือ
- ถึงเวลาดอกเบี้ยขาลง การลงทุนในไตรมาสที่ 4 มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าดอกเบี้ยโลกจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการเกิดภาวะ "Soft-Landing" ทำให้สินทรัพย์ที่มีความอ่อนไหวต่อดอกเบี้ยอย่างตราสารหนี้, ทองคำ ,หุ้นขนาดเล็ก ตลอดจนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน มีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่นในช่วงต่อจากนี้
- ปรับพอร์ตรับการเมืองสหรัฐฯ การเมืองสหรัฐฯ จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการ จัดสัดส่วนการลงทุนในไตรมาสที่ 4 และผลการเลือกตั้งยังมีความไม่ชัดเจนสูง เนื่องจากคะแนนนิยมของ Donald Trump และ Kamala Harris ค่อนข้างใกล้เคียงกัน ทำให้การลงทุนในไตรมาสนี้ควรต้องเน้น Theme "American First" ควบคู่ไปกับ "Democrat Trade" เพื่อสอดรับการเมืองสหรัฐฯ
- จงกระจายอย่ากระจุก InnovestX เริ่มเห็นสัญญาณ "Asset Rotation" มากขึ้นในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 และเราแนะนำให้นักลงทุนใส่แนวคิด "สินทรัพย์ที่ได้รับประโยชน์จากการเมืองสหรัฐ" ลงไปเพิ่มมากขึ้นในด้านการลงทุนเน้นกระจายการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่และกลาง ในขณะที่ตราสารหนี้แนะนำเพิ่มการลงทุนในตราสารหนี้เอกชนเพื่อสร้างผลตอบแทนสูงขึ้น ตลอดจนทองคำ
InnovestX ยังประเมินว่าตลาดหุ้นโลกโดยรวมจะผันผวนในช่วงครึ่งแรกของไตรมาสที่ 4 และจะเริ่มฟื้นตัวได้หลังการเลือกตั้งจบลง จึงแนะนำให้นักลงทุนลดสัดส่วนการถือครองการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่สหรัฐฯ ลง ตลอดจนหุ้นไทยที่ฟื้นตัวขึ้นมารับข่าวการเมืองในระยะสั้น และกระจายการลงทุนใน US Small Cap Value เพิ่มเติมสำหรับรองรับการลดดอกเบี้ยและการเลือกตั้งที่จะมาถึง รวมถึงปรับมุมมองเพิ่มในตราสารหนี้ที่มีทิศทางการลดดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้และปีหน้าที่ชัดเจนมากขึ้น