กทม.ขออนุมัติใช้เงินสะสม 14,500 ล้าน จ่ายหนี้ BTS ตั้งเป้าเสร็จก่อนสิ้นปี
“ชัชชาติ” ยื่นสภา กทม. ขอใช้งบ 14,500 ล้านบาท จ่ายหนี้ BTS หวังดำเนินการเสร็จก่อนสิ้นปี 2567
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 1) ประจำปี 2567 โดยเสนอร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พ.ศ. .... เพื่อชำระหนี้ BTS กว่า 14,500 ล้านบาท
นายชัชชาติ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีความประสงค์ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดตามความจำเป็นที่หน่วยงานเสนอ เป็นค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยจ่ายขาดจากเงินสะสมของกรุงเทพมหานคร

เนื่องจากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้กรุงเทพมหานครต้องชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถฯ ภายใน 180 วัน ครบกำหนดวันที่ 21 มกราคม 2568
ขณะนี้ระยะเวลาได้ผ่านล่วงมาแล้ว มีผลให้กรุงเทพมหานครต้องชำระดอกเบี้ยอันเกิดจากความล่าช้าในการชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาล เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับกรุงเทพมหานคร จึงเห็นควรเสนอร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พ.ศ...
นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ฝ่ายบริหารของกรุงเทพมหานครนั้น พิจารณาเรื่องการชำระหนี้ฯ เป็นไปตามขั้นตอนทุกประการ เพื่อให้เกิดความรอบคอบที่สุดโดยไม่มีการเร่งรัดกระบวนการเพราะความกังวลเรื่องเสียค่าปรับ จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจและมั่นใจว่า กทม. จะดูแลเงินภาษีของประชาชนอย่างดีที่สุด
“ปูติน” เตือนสงครามรัสเซีย-ยูเครนกำลังลุกลามไปทั่วโลก
จ่อเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่สิ้น มี.ค.68 คาดมีถึง 25 ล้านคน
ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้อง "ทักษิณ" ล้มล้าง ครอบงำ "เพื่อไทย"
ขณะนี้ กทม. มีเงินสะสมอยู่ประมาณ 50,000 ล้านบาท จึงมีเงินพอจ่ายหนี้ก้อนดังกล่าว 14,549,503,800 บาท โดยจ่ายจากเงินสะสมจ่ายขาดของกรุงเทพมหานคร เนื่องจากมีความประสงค์ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด คาดว่าน่าจะจ่ายหนี้ก้อนดังกล่าวได้ภายในปีนี้ ก่อนกำหนดที่ศาลปกครองสูงสุดตั้งไว้ตามคำพิพากษา คือ กทม. ต้องชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถฯ ภายใน 180 วัน หรือวันที่ 21 มกราคม 2568
นายชัชชาติ กล่าวตอนหนึ่งว่า หากสภากรุงเทพมาขอพิจารณาเงินก้อนนี้จ่ายหนี้ไป ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้น GDP ในช่วงปลายปีอีกทางด้วย เนื่องจากเมื่อภาคเอกชนได้รับการชำระหนี้ก้อนนี้ไปก็จะนำไปหมุนเวียนทางธุรกิจ เช่น จ่ายผู้รับเหมา จ่ายแรงงาน จึงเป็นเรื่องที่ดีที่วันนี้เรื่องชำระหนี้ก้อนดังกล่าวมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นและทุกอย่างตกผลึก จนผู้บริหารกรุงเทพมหานครมีความมั่นใจว่าสามารถจ่ายชำระหนี้ก้อนนี้ได้
“เรามองไปถึงอนาคตที่ยังมีหนี้อีก 1 ก้อน ที่อยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลปกครอง รวมถึงสัมปทานที่ให้เอกชนดำเนินการเดินรถฯ ที่จะหมดลงในปี 2572 ทำให้การเดินรถ BTS ช่วงไข่แดง ช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน ระยะทางรวม 23.5 กม. 24 สถานีก็จะกลับมาเป็นของ กทม. ทั้งหมด ทั้งส่วนของรายได้และตัวโครงสร้าง กทม.จึงต้องเตรียมวางแผนเรื่องจ้างที่ปรึกษาฯ ตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนต่อไป โดยต้องผ่านกระบวนการคิดร่วมกับสภากรุงเทพมหานครให้รอบคอบตามประเด็นข้อบัญญัติต่าง ๆ ของกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดเป็นคดีความต่อไปในอนาคต”
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ยื่นคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดีใหม่เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 คดีหมายเลขดำที่ อ.2226/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อ.725/2567 มีผลพิจารณาคดี ดังนี้
1. ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่ง ไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ เนื่องจากไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ที่จะขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสังชี้ขาดคดีปคครองใหม่ ตามมาตร 75 วรรคหนึ่ง (1) และ (3) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 หนังสือแจ้งคำสั่งศาล คดีหมายเลขดำที่ พม. 76/2567 คดีหมายเลขแดงที่ พน. 92/2567 ลงวันที่ 5 พ.ย. 2567 และหนังสือแจ้งคำสั่งศาล คดีหมายเลขดำที่ พม. 81/2567 คดีหมายเลขแดงที่ ผม. 93/2567 ลงวันที่ 5 พ.ย. 2567
2. สำนักงานคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสูงสด พิจารณาแล้วเห็นว่าคำสั่งศาลปกครองกลางในคดีหมายเลขลขดำที่ พบ. 81/2567 คดีหมายเลขแดงที่ พม. 93/2567 ดังกล่าว ชอบด้วยเหตุผลตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแล้ว จึงควรไม่อุทธรณ์ หนังสือด่วนที่สุด ที่ อส 0042.2/2064 ลงวันที่ 7 พ.ย. 2567 เรื่อง แจ้งคำสั่งของศาลปกครอง
3. สำนักงานกฎหมายและคดี เห็นควรไม่อุทธรณ์ ตามควานเห็นของสำนักการจราจรและขนส่ง ซึ่งไม่มีความเห็นใดที่จะมาขัดหรือแย้งคำวินิจฉัยของศาลปกครองสงสูงสุดได้ ประกอบกับต้องเร่งรัดชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เพื่อมิให้เกิดภาระดอกเบี้ย ตามหนังสือด่วนที่สุด ที่ กท 0405/6695 ลงวันที่ 11 พ.ย. 2567 เรื่อง รายงานผลคดี ขออนุมัติไม่อุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลางฯ
โดยวันนี้ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครได้มีมติเห็นชอบรับหลักการแห่งร่างข้อบัญญัตินี้ และได้เสนอให้ตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พ.ศ. .... 24 ท่าน โดยกำหนดระยะเวลาการแปรญัตติ 10 วันทำการ และกำหนดเวลาพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน