ตลาดหุ้น “แรงหนุนช่วงสั้น แต่ยังฟื้นจำกัด” แนะนำ GPSC, TIDLOR
InnovestX มองตลาดหุ้นวันนี้ (14 ก.พ. 68) SET ได้แรงหนุนหลังทรัมป์ยังไม่ใช้ภาษีตอบโต้ ภาพรวมการฟื้นตัวยังถูกจำกัด แนวต้าน 1300-1305 จุด แนวรับ 1260-1270 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) วิเคราะห์ตลาดหุ้นวันนี้ (14 ก.พ. 68) คาด SET ได้แรงหนุนหลังทรัมป์ยังไม่ใช้ภาษีตอบโต้ ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าและบาทแข็งเป็นบวกต่อ Fund Flow อย่างไรก็ตามมองเป็นแรงหนุนช่วงสั้น เนื่องจากแนวโน้มภาพรวมดัชนียังไม่มีสัญญาณกลับตัว ทำให้มองการฟื้นตัวยังถูกจำกัด โดยมีแนวต้านที่ 1300-1305 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1260-1270 จุด

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้นตัวแต่ Upside จำกัด โดยมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1320 จุด แม้ปัจจัยต่างประเทศจะมีแรงหนุนจากการคลายความกังวลเรื่องสงครามการค้าระยะสั้นและผลประกอบการนอกกลุ่มการเงินของ บจ.สหรัฐฯ ที่คาดยังออกมาแข็งแกร่ง แต่ในประเทศยังขาดปัจจัยบวกใหม่กระตุ้นบรรยากาศลงทุน คาดดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะมีแนวโน้มชะลอตัวลง แม้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะเริ่มมีผลบังคับใช้ ส่งผลให้ผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยยัง Underperform ตลาดหุ้นทั่วโลก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

Daily top picks
GPSC : มองช่วงสั้นมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นจากการปรับลงของราคาก๊าซฯ, Bond Yield และเงินบาทแข็งค่า ขณะที่ราคาหุ้นปรับลงช่วงที่ผ่านมามองรับรู้ประเด็นลบไปมากแล้ว ปัจจุบันจึงเป็นโอกาสสะสมเนื่องจากยังเห็นปัจจัยหนุน ได้แก่ การเพิ่มกำลังการผลิต, การได้รับการคัดเลือกโครงการพลังงานทดแทนระยะที่ 2 รอบแรก, ไม่มีผลกระทบจากการบังคับใช้ภาษีขั้นต่ำสากล
TIDLOR : มองผลประกอบการจะฟื้นตัวได้ดีในปี 2568-2569 โดยได้แรงหนุนจาก Credit Cost ที่ลดลง การเติบโตของสินเชื่อและ Non-NII ในระดับปานกลาง และการขยายตัวของ NIM อีกทั้งเลือกเป็นหุ้นเด่นของกลุ่มเงินทุน เนื่องจากมี Valuation ที่ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน

ประเด็นสำคัญ
- ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.ค. ที่ 59.0 เพิ่มต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และสูงสุดในรอบ 8 เดือน หนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ช่วยคลายสถานการณ์เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น
- BOI เผยมาสด้ามอเตอร์ประกาศแผนขยายการลงทุนในไทยมูลค่ากว่า 5 พันลบ. โดยใช้ไทยเป็นฐานการผลิตหลักของรถยนต์ B-SUV แบบ MHEV ซึ่งเป็นรถยนต์แบบผสมที่ใช้เครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ตั้งเป้าผลิต 1 แสนคันต่อปี เพื่อส่งออกไปทั่วโลก
- รมว.คลัง เผยกำลังทบทวนเกณฑ์การเสียภาษีเงินได้บุคคลที่มีเงินได้จากต่างประเทศและนำเข้ามาในไทยใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และสร้างแรงจูงใจให้นำเงินลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาในประเทศ
- รมว.คลัง เผยว่าการปรับปรุงหลักเกณฑ์ LTF อยู่ระหว่างการศึกษาข้อกฎหมายและเงื่อนไขในการโยกเงิน LTF ที่ครบอายุสู่กองทุน ThaiESG จัดตั้งใหม่ และคาดจะเห็นความชัดเจนภายในไม่เกิน ก.ย. 2568
- รมว.คลัง เผยกำลังจัดทำมาตรการช่วยเหลืออุตฯ ยานยนต์กับ บ.ส.ย. ให้ช่วยค้ำประกันสินเชื่อรถเชิงพาณิชย์ โดยจะปรับสัดส่วนค้ำประกันเพิ่มขึ้นจาก 30% คาดจะสามารถนำเสนอครม. ได้ภายใน 3-4 เดือน
- ททท. คาดการท่องเที่ยวไทย ก.พ. 2568 เติบโตขึ้น และจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทย 16.45 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 2% และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวราว 81,250 ลบ. เพิ่มขึ้น 8%
- ปธน.ทรัมป์ ประกาศมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้กับทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ แต่ยังไม่มีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 1 เม.ย. โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเศรษฐกิจและการค้าศึกษาเพิ่มเติม
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET มีโอกาสฟื้นตัวได้ แต่ Upside จำกัด มีแนวต้านสำคัญที่ 1320 แนะนำลงทุนใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 2 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้
- หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนกำไร 4Q67-1Q68 ที่คาดจะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ เลือก ADVANC TRUE AMATA TIDLOR MTC AU HTC
- หุ้น Real Sector พื้นฐานดี ใน SET100 ที่คาดเป็นเป้าหมายของกองทุนและมี Downside Risk จำกัดเนื่องจากมีจุดแข็ง 1) ปี 2568 คาดกำไรสามารถเติบโตได้ YoY 2) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง สภาพคล่องสูง มีโอกาสซื้อหุ้นคืน (มี PBV < 1 เท่า) 3) Valuation ไม่แพง ซื้อขาย PER และ PBV 2568F ต่ำกว่า -1SD และ 4) มีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาด Div. Yield ปี 2568 อย่างน้อย 5% แนะนำ BCP AP PTT TU SPALI
- หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากมาตรการกระตุ้นการบริโภค เช่น Easy E-Receipt และแจกเงินหมื่นเฟส 2 แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CRC HMPRO TNP) และกลุ่มท่องเที่ยว (MINT AWC ERW AOT)
- Trading Idea : นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้แนะนำเก็งกำไร 1) หุ้นที่คาดสัปดาห์หน้าจะประกาศงบ 4Q67 และกำไรเติบโต YoY และ QoQ แนะนำ AOT MINT และ 2) หุ้นที่คาดมีโอกาสเพิ่มอัตราจ่ายปันผล หรือ ซื้อหุ้นคืน เนื่องจากมี PBV ต่ำกว่า 1 เท่า และมีสภาพคล่องสูง เลือก PTT KBANK BBL KTB