“BYD” รายงานรายได้ปี 2024 อยู่ที่ 3.64 ล้านล้านบาท แซงหน้า “เทสลา”
แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน “BYD” เปิดเผยรายได้ปี 2024 อยู่ที่กว่า 3.64 ล้านล้านบาท ทำให้สามารถแซงคู่แข่งคนสำคัญอย่าง “เทสลา” ได้
วันที่ 25 มี.ค. “BYD” (บีวายดี) ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของจีน ได้รายงานรายได้ประจำปี 2024 โดยระบุว่า รายได้เพิ่มขึ้น 29% เป็น 777,000 ล้านหยวน (ราว 3.64 ล้านล้านบาท) โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ไฮบริด
ตัวเลขรายได้ดังกล่าวทำให้ BYD แซงหน้าเทสลา (Tesla) ของ อีลอน มัสก์ ซึ่งรายงานรายได้ปีล่าสุดไว้ที่ 9.77 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.32 ล้านล้านบาท) โดยปีที่แล้ว BYD ขายรถยนต์ไฟฟ้าได้เกือบเท่ากับเทสลา โดยขายได้ 1.76 ล้านคัน ขณะที่เทสลาขายได้ 1.79 ล้านคัน

แต่เมื่อนำยอดขายรถยนต์ไฮบริดของบริษัทจีนเข้ามาพิจารณา ทำให้ยอดขายในภาพรวมของ BYD สูงขึ้นมาก โดยทำสถิติการขายรถยนต์ทั่วโลกที่ 4.3 ล้านคันในปี 2024
ขณะเดียวกัน เทสลากำลังเผชิญกับแรงซื้อที่ลดลงทั่วโลกจากความสัมพันธ์ของมัสก์กับประธานาธิบดีสกรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา BYD เพื่อประกาศเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ “Qin L” เพื่อแข่งขันกับเทสลา โดยหวังจะโค่นล้ม Tesla Model 3 ซึ่งครองอันดับหนึ่งของยานยนต์ไฟฟ้าในจีนมาอย่างยาวนาน
Qin L มีราคาเริ่มต้นในประเทศจีนที่ 119,800 หยวน (ราว 562,000 บาท) ในขณะที่รุ่นพื้นฐานของ Tesla Model 3 มีราคาอยู่ที่ 235,500 หยวน (ราว 1.1 ล้านบาท)
ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หวัง ฉวนผู ผู้ก่อตั้ง BYD ได้ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่แบบใหม่ ซึ่งเขาบอกว่าสามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ในเวลา 5 นาที ส่วนการชาร์จของเทสลาโดยใช้ระบบซูเปอร์ชาร์จเจอร์นั้นจะใช้เวลาประมาณ 15 นาที
เรียบเรียงจาก BBC