ซีพี ออลล์ เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ อายุ 4 ปี 10 เดือน 13 วัน
ซีพี ออลล์ เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ อายุ 4 ปี 10 เดือน 13 วัน เสนอขายให้ประชาชนทั่วไป 25 – 27 มิถุนายน 2568 นี้
นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ Chief Financial Officer บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ซีพี ออลล์” เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (CPALL256B) และผู้ลงทุนทั่วไปในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีความเปราะบางและมีแนวโน้มที่จะหดตัวลงจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า โดยบริษัทฯ และหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “AA-” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด

สำหรับหุ้นกู้ชุดใหม่ของบริษัทฯ ในครั้งนี้ เป็นหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 4 ปี 10 เดือน 13 วัน ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน ตลอดอายุของหุ้นกู้ โดยอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ทั้งนี้ หุ้นกู้ชุดใหม่จะให้สิทธิผู้ถือหุ้นกู้ CPALL256B จองซื้อก่อน เพื่อขอบคุณผู้ถือหุ้นกู้เดิมของบริษัทฯ ที่ให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ ซึ่งคาดว่าจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 28 – 30 พฤษภาคม 2568 ผ่าน 4 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เท่านั้น
ผู้ถือหุ้นกู้ CPALL256B สามารถจองซื้อหุ้นกู้ชุดใหม่ได้ไม่เกินจำนวนหุ้นกู้เดิมที่ถืออยู่ โดยจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท
สำหรับประชาชนทั่วไป คาดว่าจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 25 – 27 มิถุนายน 2568 ผ่าน 6 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) รวมถึงมีการขายผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
สำหรับ “ซีพี ออลล์” เจ้าของแบรนด์ “เซเว่น อีเลฟเว่น” จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Drink Destination) โดย ณ ปี 2567 มีจำนวนร้านสาขารวม 15,245 สาขาทั่วประเทศ วางแผนที่จะลงทุนเปิดสาขาในประเทศไทยประมาณปีละ 700 สาขา นอกจากนี้ การขยายธุรกิจไปยังประเทศกัมพูชาและลาว
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ พบว่า ในปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 987,794 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% จากปีก่อน และกำไรสุทธิ 25,346 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.1% จากปีก่อน
ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
อย่างไรก็ตาม ขอเน้นย้ำ ให้ผู้ลงทุนระวังมิจฉาชีพที่แอบอ้างชื่อบริษัทฯ หลอกลงทุน นำเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริง โดยเฉพาะช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook และแอปพลิเคชั่น Line เป็นต้น ขอให้นักลงทุนพิจารณาผลตอบแทนที่เป็นไปได้ หรือติดต่อสอบถามผ่านธนาคารทั้ง 6 แห่งที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ก่อนตัดสินใจลงทุน