InnovestX คาดตลาดหุ้นแกว่งตัวไซด์เวย์ด้วยวอลุ่มที่เบาบาง
InnovestX คาดตลาดหุ้นแกว่งตัวไซด์เวย์ด้วยวอลุ่มที่เบาบาง บรรยากาศการลงทุนยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามา
InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX มีมุมมองต่อ ดัชนีตลาดหุ้นไทย คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบแบบไซด์เวย์ ด้วยวอลุ่มการซื้อขายเบาบาง หลังบรรยากาศการลงทุนยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามา
ขณะที่นักลงทุนอยู่ระหว่างรอติดตามการทยอยประกาศงบไตรมาส 3/2568 ของหุ้นกลุ่ม Real Sector และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานใหม่ (JOLTs) ของสหรัฐคืนนี้ หากสามารถเผยแพร่ได้ตามกำหนด แม้อยู่ในช่วง Government Shutdown
โดยทางเทคนิคประเมินแนวรับของดัชนีอยู่ที่ 1,305–1,300 จุด ขณะที่แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,320–1,323 จุด ซึ่งหากยืนเหนือได้มีโอกาสเปิดรอบขาขึ้นใหม่ ทำให้ภาพรวมระยะสั้นคาดว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,280–1,345 จุด
ปัจจัยภายในประเทศ
- ที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจอนุมัติหลักการโครงการแก้ไขปัญหาหนี้เสียรายย่อย ผ่านการจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ร่วมกับ ธปท. และสถาบันการเงิน เพื่อเร่งปรับโครงสร้างหนี้ลูกหนี้รายย่อย โดยจะเสนอ ครม. อย่างเป็นทางการวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ หุ้นที่คาดได้รับประโยชน์ ได้แก่ KTC, MTC และ BAM
- ขณะเดียวกัน กพช. เห็นชอบโครงการ “โซลาร์ฟาร์มชุมชน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย Quick Big Win โดยจำกัดกำลังผลิตชุมชนละไม่เกิน 10MW รวม 1,500MW และรับซื้อไฟฟ้าในอัตรา FiT ไม่เกิน 2.25 บาทต่อหน่วย ระยะสัญญา 25 ปี โดยสิทธิ REC/Carbon Credit เป็นของภาครัฐ
ปัจจัยต่างประเทศ
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจำกัดการส่งออกชิป AI รุ่นใหม่ “Blackwell” ของ Nvidia โดยห้ามจำหน่ายนอกสหรัฐฯ รวมถึงจีนยกเว้นการลดสเปกเทคโนโลยี (Scaled-down Version) ซึ่งสะท้อนการเข้มงวดของนโยบายควบคุมเทคโนโลยี AI หลัง Nvidia เพิ่งเริ่มส่งมอบชิปรุ่นนี้ให้ Samsung Electronics
- ส่วน Bharat Petroleum ของอินเดียมีการสั่งซื้อน้ำมันดิบจาก UAE จำนวน 2 ล้านบาร์เรล เพื่อทดแทนน้ำมันรัสเซีย สะท้อนการแย่งชิงอุปทานน้ำมันในตะวันออกกลางมากขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มความผันผวนของราคาน้ำมัน จึงแนะนำ “หลีกเลี่ยงความผันผวน” ในหุ้นกลุ่มขนส่งพลังงาน เช่น PRM
- ขณะเดียวกัน ดัชนี PMI ภาคการผลิตจีน โดย RatingDog เดือนตุลาคม 2568 ปรับลดลงสู่ระดับ 50.6 จากเดือนก่อนหน้าที่ 51.2 ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด กดดันบรรยากาศการค้าระหว่างประเทศที่ยังตึงตัวระหว่างจีนและสหรัฐฯ
ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้แนะนำให้ “Selective Buy” โดยเน้นหุ้น 2 ธีมหลักและ 4 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ได้แก่
- หุ้น Earnings Play ที่คาดงบ 3Q68 เติบโตดี YoY และ QoQ ได้แก่ ADVANC, BCP, LHSC, OR, PTT, TRUE
- หุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง เช่น CENTEL, GPSC, TRUE, AP, MTC, TIDLOR และกลุ่ม REITs (DIF, FTREIT, LHHOTEL)
Trading Idea แนะนำ
- หุ้นที่งบ 3Q68 ดีกว่าคาด: BCPG, GFPT, CPALL, BGRIM
- หุ้นได้อานิสงส์จากข้อตกลงการค้า “ทรัมป์–สีจิ้นผิง”: IVL, PTTGC, SCC, SCGP
- หุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐ: CENTEL, ERW, BAM, MTC
- หุ้นได้อานิสงส์บาทแข็ง–ดอลลาร์อ่อน: BGRIM, GPSC
Daily Top Picks
- ADVANC มีแนวโน้มกำไร 3Q68 เติบโตแข็งแกร่ง +31.9%YoY จากรายได้มือถือและ Fixed Broadband ที่ขยายตัว พร้อมต้นทุนสัมปทานลดลงราว 300 ล้านบาท ให้ราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 307 บาท
- CENTEL คาดกำไร 3Q68 ฟื้นตัว +15%QoQ รับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวและ High Season โรงแรมมัลดีฟส์ เป้าหมายระยะสั้น 33.50 บาท
BTC
ETH
DOGE
ADA
BNB
KUB