คอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักชัวรี่ฮอต พระราม4- สีลม ปล่อยเช่าได้สูงถึง 2,000 บาท/ตร.ม.
คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในโครงการที่สร้างแล้วเสร็จทำเลใจกลางเมือง (downtown) มียอดขายเฉลี่ยสูงถึงกว่า 93% ปล่อยเช่าได้สูงถึง 2,000 บาทต่อตารางเมตร
หากพูดถึง โครงการบนทำเล Super Core CBDตอนนี้คงหนีไม่พ้น- ที่พักอาศัย Ultra Luxury ย่านพระราม 4 - สีลม ซึ่งโครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่เติบโตต่อเนื่องซึ่งมี 2 เมกะโปรเจ็กต์ ที่น่าสนใจคือ One Bangkok และ The Residences at Dusit Central Park
ซึ่งความต้องการที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน อาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จํากัด หรือ CBRE Thailand เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดที่พักอาศัย ในครึ่งแรกของปี 2567
เช็กสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา ปริมาณน้ำสูงกว่าปี 66 ทุกเขื่อน!
ปปง.ยึดอายัดที่ดิน-บ้านหรูทุนจีนริมเจ้าพระยา มูลค่า 1,450 ล้าน
นายพลอิหร่านหายตัวปริศนา หลังอิสราเอลถล่มเลบานอน
โครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในโครงการที่สร้างแล้วเสร็จทำเลใจกลางเมือง (downtown) มียอดขายเฉลี่ยสูงถึงกว่า 93% โดยเฉพาะบริเวณเซ็นทรัล ลุมพินี และสีลม-สาทร มียอดขายกว่า 96% และ 94% ตามลำดับ ขณะที่โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่มียอดขายสูงถึง 86% ซึ่งสูงกว่าเซกเม้นต์อื่นในทำเลเดียวกัน
ซึ่งเมื่อพิจารณาโดยละเอียดจะพบว่า โครงการที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ที่บริหารโดยเครือโรงแรมระดับห้าดาว หรือ Branded Residences มียอดขายเฉลี่ยสูงถึง 90% และหากมองในแง่การลงทุนโครงการที่พักอาศัยในรูปแบบนี้ จะได้ผลตอบแทนจากการลงทุน (Yield) ที่สูงกว่าเซกเม้นต์อื่นๆ ซึ่งมีปัจจัยบวก คือ ทำเลที่ตั้งที่อยู่ใน Prime Location ขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยอย่างแท้จริง การออกแบบให้ได้ตามมาตรฐานของแบรนด์ ดีไซน์ที่ร่วมสมัย พร้อมเซอร์วิสระดับห้าดาว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
โดยโครงการที่ครบองค์ประกอบเหล่านี้ มีอยู่เพียงจำนวนน้อย จึงเป็นที่ต้องการในตลาดเช่าอย่างมาก โดยปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นผู้เช่าชาวต่างชาติอยู่ที่ร้อยละ 90 และผู้เช่าชาวไทยร้อยละ 10
เมื่อพิจารณาถึงการปล่อยเช่าโครงการบนทำเล Super Core CBD และเซกเม้นท์นี้พบว่ามีดีมานด์ที่สูงจากกลุ่มผู้เช่าที่มองหาที่พักอาศัยที่ดีที่สุดที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของตัวโครงการและเซอร์วิสซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าระดับบนต้องการ จึงสามารถสร้างผลตอบแทนต่อการลงทุน (Yield) ได้สูงถึง 7.9% ต่อปี ทั้งนี้เมื่อเทียบกับทำเลอื่นใน CBD ทำเลนี้ยังสามารถปล่อยเช่าได้สูงถึง 2,000 บาทต่อตารางเมตร
ยกตัวอย่างโครงการ เช่น Dusit Central Park เป็นโครงการมิกซ์ยูส ที่มีทั้งที่พักอาศัย สูง 69 ชั้น 406 ห้อง ห้องพักขนาด 2 – 4 ห้องนอน และเพนท์เฮ้าส์ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 118 - 900 ตารางเมตร และ “ดุสิต พาร์คไซด์ (Dusit Parkside)” เริ่มที่ชั้น 9 – 29 ห้องชุดขนาด 1 – 2 ห้องนอน และห้อง Special Units ที่ใช้สอยตั้งแต่ 55 – 250 ตารางเมตร
นอกจากนี้ ยังมีศูนย์การค้า (Central Park) อาคารสำนักงานให้เช่า (Central Park Offices) และโรงแรมระดับ 5 ดาว ก็คือ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ (Dusit Thani Bangkok) ที่เปิดให้บริการแล้วในวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา
และอีกเมกะโปรเจ็กต์ คือ One Bangkok ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชยกรรมแบบผสมบนพื้นที่ 104 ไร่ บนถนนพระรามที่ 4 และถนนวิทยุ หัวมุมแยกวิทยุ บนพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พัฒนาโดยบริษัท วัน แบงค็อก จำกัด ในเครือกลุ่มทีซีซี และบริหารงานโดยบริษัท วัน แบงค็อก โฮลดิ้งส์ จำกัด กิจการร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีกำหนดเปิดให้บริการระยะแรกในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 และกำหนดแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการในปี พ.ศ. 2570