ททท. - มิชลิน ผลงาน 8 ปี สร้างรายได้แตะ 500 ล้าน
ททท. เปิดผลงาน 8 ปี จับมือ มิชลิน พบ สร้างรายได้กว่า 500 ล้าน พร้อมเผย ปี 68 เดินหน้าผลักดัน "ไทย" เป็นจุดหมายด้านอาหารระดับโลก
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยภายในงานเสวนา "เส้นทางสู่ความเป็นเลิศของอาหารไทยผ่านคู่มือ มิชลิน ไกด์" ว่า ตั้งแต่ ททท. ร่วมมือกับมิชลินตลอด 8 ปีที่ผ่านมา สามารถช่วยยกระดับวงการอาหารไทย และการท่องเที่ยวเชิงอาหารได้อย่างเป็นรูปธรรม จากการเริ่มต้นแนะนำร้านอาหารในกรุงเทพ เมื่อปี 2561 ได้ส่งผลให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ของประเทศไทยโตอย่างก้าวกระโดด

ปัจจุบัน พบว่า มีนักท่องเที่ยวรวมถึงประชาชน เข้าไปใช้บริการร้านอาหารไทยในกลุ่มคู่มือมิชลิน มากกว่า 1.8 ล้านคน ส่งผลให้สร้างรายได้ให้กับร้านอาหารไทยในกลุ่ม ดังกล่าวกว่า 500 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 20% จากจำนวนรายได้ทั้งหมดของภาคการท่องเที่ยวและการบริการของไทยอีกด้วย
จากการเริ่มต้นแนะนำร้านอาหารในกรุงเทพมหานครเมื่อปี 2561 ซึ่งมีร้านอาหารในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ เพียง 98 ร้าน ปัจจุบันคู่มือเล่มล่าสุดปี 2568 มีจำนวนร้านอาหารในคู่มือเพิ่มขึ้น 462 ร้าน และได้ขยายพื้นที่ครอบคลุม 11 พื้นที่ทั่วทุกภูมิภาค เช่น ภูเก็ต พังงา จังหวัดปริมณฑล เชียงใหม่ พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา ขอนแก่น เกาะสมุย และล่าสุด ได้ขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมในภาคตะวันออก คือ ชลบุรี
ซึ่งผลงานล่าสุดในปี 2568 มีหนึ่งในร้านอาหารไทยในคู่มือ ได้รับสามดาวมิชลินเป็นร้านแรกในประเทศไทยและเป็นร้านอาหารไทยร้านแรกของโลก ถือเป็นความภาคภูมิใจครั้งสำคัญของวงการอาหารไทย
นอกจากนี้ประเทศไทยยังได้รับการประเมินภาพลักษณ์การท่องเที่ยวด้านอาหารประจำปี 2567 โดยบริษัท เคเนติกส์ คอนซัลติ้ง จำกัด ด้วยว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติมองประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่มีภาพลักษณ์เป็น “แหล่งท่องเที่ยวเชิงอาหารที่โดดเด่น” ในระดับ 53% เพิ่มขึ้นจาก 44% ในปี 2566 ครองอันดับ 2 รองจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในปีนี้ ททท.จะ เดินหน้าขับเคลื่อนให้ไทยขึ้นเป็นอันดับ 1
นางสาวฐาปนีย์ ระบุว่า ขณะที่ภาพลักษณ์ด้านอาหารของไทยในระดับนานาชาติ พบว่าประเทศไทยได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากการจัดอันดับ ของนิตยาสาร Time Out ได้จัดอันดับให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองอาหารที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของโลกประจำปี 2568 รองจากเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนาของสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังขึ้นชื่อเรื่องมรดกวัฒนธรรมด้านอาหารที่หลากหลายและโดดเด่นในหลายจังหวัดนอกเหนือจากกรุงเทพฯ โดยเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network: UCCN) ยังได้ขึ้นทะเบียนให้จังหวัดภูเก็ต ในปี 2558 และจังหวัดเพชรบุรี ในปี 2564 ที่ผ่านมา เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร (City of Gastronomy) โดยยกย่องวัตถุดิบท้องถิ่นอันล้ำค่าและสูตรอาหารแบบดั้งเดิมของชุมชน ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ตสามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจท้องถิ่นจากอาหารได้กว่า 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี