ท่องเที่ยวไทยยังโตแต่เริ่มแผ่ว! ttb analytics ชี้ถึงเวลายกเครื่องใหม่

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบี (ttb analytics) เปิดเผยว่า ภาคการท่องเที่ยวไทยในปี 2568 ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่เริ่มเห็นสัญญาณ “ชะลอตัวมากขึ้น” ในปี 2569 จากภาวะอิ่มตัวของแหล่งท่องเที่ยวเดิมที่ขาดการต่อยอดและพัฒนาแหล่งใหม่ ทำให้แรงดึงดูดและความประทับใจของนักท่องเที่ยวลดลง ส่งผลต่อทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติที่เดินทางซ้ำลดลง จึงจำเป็นต้องเร่ง “ยกเครื่อง” การท่องเที่ยวไทยเพื่อรักษาโมเมนตัมและสร้างมูลค่าใหม่ในระยะยาว

TTB Analytics

รายได้ท่องเที่ยวในประเทศยังโตต่อเนื่อง

ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า ปี 2567 ไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมกว่า 2.9 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในประเทศที่ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจฐานราก ช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนในพื้นที่ห่างไกล

ttb analytics ประเมินว่า ปี 2568 จำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศจะเพิ่มขึ้นแตะ 284 ล้านคนต่อครั้ง ทำสถิติเติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แม้แนวโน้มการท่องเที่ยว “ใกล้บ้าน ไป–กลับ กระชับเส้นทาง” ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อทริปลดลง แต่จำนวนการเดินทางที่มากขึ้นจะช่วยสร้างเม็ดเงินกว่า 1.2 ล้านล้านบาท เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

สัญญาณชะลอตัวเริ่มชัดในหลายพื้นที่

ttb analytics ระบุว่า แม้ช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมาเป็น “ยุคทอง” ของการท่องเที่ยวในประเทศ แต่ปี 2568 เริ่มเห็นการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวในทุกกลุ่มเมือง
    •    เมืองหลัก เช่น พระนครศรีอยุธยา เคยเติบโต 15.3% ในปี 2566 แต่เหลือเพียง 0.4% ในปี 2568
    •    สงขลา จาก 59.1% เหลือ 6.3% ในช่วงเดียวกัน
    •    เมืองรองพักค้างแรม อย่างจันทบุรี หดตัวจาก 206.8% เหลือ -8.2%
    •    เมืองรองไปเช้า–เย็นกลับ เช่น ฉะเชิงเทรา ลดลงเหลือ 6.8%
    •    กลุ่มจังหวัดเชื่อมโยง เช่น นครพนม–สกลนคร เติบโตชะลอลงเหลือ 7.2%

สาเหตุหลักมาจากความซ้ำซากของแหล่งท่องเที่ยวเดิมที่ไม่ถูกพัฒนาให้เกิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ประกอบกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวไทยที่ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ท่ามกลางค่าครองชีพที่สูงขึ้น

แนะยกเครื่องใหม่ 3 มิติ

เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายของภาคการท่องเที่ยวและสร้างแรงส่งใหม่ในระยะยาว ttb analytics เสนอแนวทางพัฒนา 3 ด้านสำคัญ ได้แก่
    1.    ยกระดับระบบขนส่งสาธารณะ (Public Transport)
ปัญหาการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวยังเป็นอุปสรรคสำคัญ แม้ไทยมีโครงสร้างพื้นฐานด้านถนนและสนามบินมากพอ แต่ยังขาด “Connectivity” ระหว่างระบบขนส่ง โดยเฉพาะช่วง “Last Mile” ทำให้ต้นทุนการเดินทางสูงและยุ่งยาก
ศูนย์ฯ มองว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงอาจเป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญ” หากภาครัฐเร่งเชื่อมต่อสถานีรถไฟกับระบบขนส่งท้องถิ่น เพื่อให้การเดินทางสะดวกขึ้นและกระตุ้นให้คนไทยเที่ยวในประเทศมากขึ้น

คอนเทนต์สำหรับคุณ By Blue Dot

เนื้อหาคัดสรรคุณภาพ

“Quick Big Win” 4 เดือนทำได้จริงไหม?

11 ต.ค. 2568

ชาไทยโกอินเตอร์! เทรนด์มัจฉะฟีเวอร์ ดันส่งออกพุ่ง

11 ต.ค. 2568

    2.    สร้างภาพลักษณ์ใหม่ “เที่ยวไทยได้ทุกฤดู” (All-Season Tourism)
การโปรโมทท่องเที่ยวเฉพาะฤดูกาลทำให้เกิดความแออัดในช่วงพีค การสร้างภาพจำใหม่ว่า “เที่ยวไทยได้ทุกเวลา” จะช่วยกระจายรายได้และเพิ่มความน่าสนใจให้แหล่งท่องเที่ยว เช่น
    •    โปรโมท หน้าฝน เป็น “Green Season” ด้วยกิจกรรมธรรมชาติ–ผจญภัย
    •    ดึงเสน่ห์ หน้าหนาว ผ่านทะเลหมอก ดอยสูง และเส้นทางเดินป่า

    3.    มาตรการสนับสนุนและจูงใจจากรัฐ
เสนอให้เพิ่มแรงจูงใจด้านภาษีสำหรับการท่องเที่ยวเมืองรอง เช่น ให้ลดหย่อนภาษีตามจริง หรือขยายสิทธิ์โครงการคนละครึ่งไปสู่ภาคท่องเที่ยวและโรงแรม เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและกระจายรายได้อย่างทั่วถึง

ถึงเวลายกเครื่อง “เครื่องยนต์ท่องเที่ยวไทย”

ttb analytics สรุปว่า ภาคการท่องเที่ยวไทยวันนี้เปรียบเสมือน “เครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจ” ที่เริ่มทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ แม้การซ่อมบำรุงบางส่วนช่วยยืดเวลาได้ แต่หากต้องการให้กลับมาทำงานเต็มที่ จำเป็นต้อง “Overhaul ใหม่ทั้งระบบ” ทั้งในด้าน การเข้าถึง (Accessibility), การสร้างภาพจำใหม่ (Rebranding) และ การออกแบบการท่องเที่ยวแบบ All-Season เพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวไทยกลับมาเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจระยะยาวได้อย่างยั่งยืน