นับถอยหลังรถใช้น้ำมัน! "ฝรั่งเศส-สเปน"เลิกขายในปี 2035
รถยนต์เป็นต้นตอสำคัญในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโลกร้อน หลายประเทศได้ลงนามเตรียมลดการจำหน่ายในปี 2035
ฝรั่งเศสและสเปน เป็นสองประเทศล่าสุดที่ให้คำมั่นว่าจะหยุดการจำหน่ายยานยนต์ใช้น้ำมันในปี 2035 ซึ่งเร็วกว่าแผน 5 ปี โดยคำมั่นดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
หลายประเทศให้คำมั่นในการประชุม COP27 ที่อียิปต์ โดยมีการลงนามข้อตกลง Zero Emission Vehicles Declaration (ZEVD) ซึ่งเปิดตัวในการประชุมครั้งหลังสุดที่กลาสโกว์
เปิดฉากการประชุม COP 27 ถกชาติร่ำรวยจ่ายชดเชยค่าเสียหายจากภาวะโลกร้อน
ประเทศหมู่เกาะจี้เก็บภาษี บ.น้ำมัน จ่ายชดเชยผลกระทบโลกร้อน
การลงนามในกลุ่มดังกล่าว มีทั้งระดับประเทศ องค์กรต่าง ๆ และภาคธุรกิจ ที่จะจำหน่ายยานยนต์ปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ให้ได้ 100% ในปี 2035 ในตลาดหลัก และทั่วโลกในปี 2040
จำนวนผู้ร่วมลงนามเพิ่มเป็น 214 แห่ง จาก 130 ประเทศและองค์กรในปีก่อน แต่กลุ่ม ZEVD อาจจะถูกบดบังจากกลุ่มใหม่ คือ Accelerating to Zero Coalition ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้สมาชิกปฏิบัติตามข้อตกลง
ผู้กำหนดนโยบายกำลังพุ่งเป้าลดการปล่อยก๊าซจากรถยนต์ รถบรรทุก และการขนส่งรูปแบบอื่นเช่น เครื่องบิน ซึ่งเป็นตัวทำให้โลกร้อนมากที่สุด แต่การเดินทางด้วยเครื่องบินและทางเรือ ยากมากในการลดการปล่อยคาร์บอน แต่หากมีเทคโนโลยีช่วยลดการปล่อยคาร์บอนให้มีขนาดเล็กและมีประสิทธิภาพมากกว่าก็สามารถแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง
จากข้อมูลล่าสุดของ BloombergNEF ชี้ให้เห็นว่ายอดจำหน่ายยานยนต์ที่ปล่อยก๊าซเป็นศูนย์ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 13.2% ในครึ่งปีแรก
การตั้งเป้าเลิกจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันในประเทศพัฒนากแล้วในปี 2035 และ ประเทศกำลังพัฒนาในปี 2040 นับเป็นหมุดหมายสำคัญในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
หากทุกประเทศเดินหน้าสู่เป้าหมายดังกล่าว ก็จะมีโอกาสอยู่มากสำหรับค่ายรถยนต์ในการปรับเปลี่ยนไปใช้รถยนต์พลังงานสะอาด 100% โดยเฉพาะในตลาดประเทศกำลังพัฒนา และตลาดเกิดใหม่
อย่างไรก็ตาม การให้ความช่วยเหลือต่อประเทศกำลังพัฒนาในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์พลังงานสะอาดเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค และช่วยให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้น