"ความสำเร็จไม่ได้มีแค่งาน"บริหารสมดุลตามนาฬิกาชีวิตทวงคืนเวลาถูกขโมย

“คุณปิ๊ง อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม” ผู้กำกับร้อยล้านเจ้าของผลงานคุณภาพมากมาย ได้เล่าประสบการณ์การทำงานกองถ่าย ในรายการ Coffee Club เมื่อวันที่ 25 ส.ค.65 ว่าตอนที่ตนยังเป็นวัยรุ่นได้ทุ่มหมดตัวกับการทำงานอย่างหักโหม แต่พอถึงจุดหนึ่ง ก็เริ่มรู้สึกว่าสุขภาพไม่ดี ไม่มีเวลาให้ครอบครัว ที่สำคัญยังรู้สึกตนเองเห็นแก่ตัวเอาเปรียบเวลาคนอื่นเพราะการกำกับหนัง ต้องทำงานกับคนกว่าครึ่งร้อย และหนังยังเป็นตัวกำหนดเวลางานอีกด้วย จึงได้ปรับแนวคิดใหม่เพื่อหาสมดุลของชีวิต นำมาซึ่งความสำเร็จในทุกด้าน

มองทะลุปัญหาในกองถ่าย บริหารความกดดัน แบบ “ปิ๊ง อดิสรณ์”

ซุนโงกุล พลังใจ “น้าต๋อย เซมเบ้” ต่อสู้วัณโรคกระดูก

นอกจากคุณปิ๊งแล้วเชื่อว่าหลายคนก็ประสบกับปัญหาการจัดสรรเวลาไม่ถูกเช่นกัน วันนี้เราจึงมีทริคง่าย ๆ มาแนะนำ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า

ก่อนจะแนะนำทริคชีวิตที่ว่าจะมีประสิทธิภาพได้แน่ๆ หากรู้ “นาฬิกาชีวิต” ก่อนเพื่อไม่ให้ร่างกายผิดเพี้ยน ส่งผลต่อสุขภายกาย สุขภาพใจ ต้องขออธิบายว่าในร่างกายของเราจะมีตาที่ 3 อยู่ในสมองคือ ต่อมไพเนียล (Pineal Gland ) ต่อมนี้จะคอยรับรู้แสงและความมืดโดยสร้างเมลาโทนิน เมื่อแสงลดลง หรือเมื่อถึงเวลามืด ให้เรารู้สึกง่วง นั้นหมายถึงเวลาที่ต้องเข้านอน เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมอวัยวะ ที่ถูกใช้งานมาตลอดทั้งวัน และพบว่าอัตราผู้ป่วยที่ใช้ชีวิตกลางคืนเวลานาน จะป่วยเป็น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ หลอดเลือดในสมองมากกว่าคนที่นอนปกติ เพราะชีวิตเสียสมดุล และไม่สามารถชดเชยด้วยการนอนกลางวัน เราเองก็ยังรู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม ตื่นมาไม่สดใส ยังไงเสียต้องนอนตอนกลางคืน ดังนั้นนาฬิกาของทุกคนจึงเหมือนกัน

ช่วงเวลาของ “นาฬิกาชีวิต” คือ

• 7.00 - 9.00 น. เป็นเวลาดีสำหรับมื้อเช้า เพราะกระเพาะอาหารจะแข็งแรงที่สุด อีกทั้งยังเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการวางแผนงานประจำวันและเริ่มทำงานด้วย
• 13.00 - 15.00 น.ยังคงเป็นช่วงเวลาแห่งการทำงาน โดยเวลานี้ควรงดกินขนมและอาหารจุกจิก เนื่องจากจะรบกวนเวลาการทำงานของลำไส้เล็ก
• 15.00 - 17.00 น. ช่วงเวลานี้เป็นเวลาเหมาะสมในการออกกำลังกาย ซึ่งช่วงนี้เป็นเวลาของกระเพาะปัสสาวะที่จะรอขับของเสียออกจากร่างกาย
• 21.00 - 23.00 น. - สำหรับช่วงนี้ ควรให้ร่างกายพักผ่อน เพราะการนอนหลับในช่วงนี้จะทำให้ร่างกายสดชื่นและได้รับการซ่อมแซมอย่างมีประสิทธิภาพ

แนวทางการทวงคืนและจัดสรรเวลาบอกรักตัวเองก่อนงาน

• ปรับ Mindset การถูกขโมยเวลาส่วนหนึ่งมากจากความคิดของตนเองที่คิดว่าความสำเร็จในชีวิตคือการทำงาน และไม่เคยมองมุมกลับว่ายังมีครอบครัวคนที่อยู่ด้านหลัง หรือสิ่งที่ชอบสถานที่ที่อยากไป งานอดิเรกที่อยากทำ ซึ่งควรมีสิ่งเหล่านี้ควรจัดเข้ามาอยู่ในตารางชีวิตของเรา
• ปรับเวลานอนให้ดีขึ้น เริ่มต้นด้วยการนอนหลับ ยิ่งพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มจะยิ่งทำให้มีเรี่ยวแรงในการใช้ชีวิตมากขึ้น แถมยังทำให้เรามีเวลาในแต่ละวันเพิ่มขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้การนอนเร็วและตื่นเช้ายังช่วยให้สมองแจ่มใส จะทำงานอะไรก็ลุยได้แบบเต็มที่
• จัดลำดับความสำคัญ ต้องจัดสรรงานและเวลาส่วนตัวอย่างเหมาะสมรู้ว่าอะไรสำคัญมากกว่ากัน อะไรที่สามารถรอได้ ก็ควรปล่อยวางไม่ควรเก็บทุกเรื่องมาใส่ใจ ถ้าทุกอย่างถาโถมเข้ามาพร้อมกันแนะนำให้จดใส่สมุดเป็นข้อๆ และลองชั่งน้ำหนักดูว่าอะไรสำคัญที่สุด ณ. เวลานั้นค่ะ

ต่างวัยร่างกายต่างกัน แนะวิธี "ออกกำลังกาย" ให้เหมาะสมกับอายุ

• ตั้งเป้าหมาย มองภาพตัวเองให้ออกว่าตัวเราจะเป็นอย่างไรในอนาคตไม่ให้หลงทาง และให้เป็นแรงผลักดันแต่แนะนำว่าอย่าเคร่งเครียดมากไปนัก เราสามารถทบทวนและปรับเปลี่ยนเป้าหมายให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในชีวิตได้เสมอ 
• แบ่งเวลาพักผ่อน หาประสบการณ์ออกเที่ยว สุดสัปดาห์นี้จัดทริปออกเที่ยวหาประสบการณ์ชีวิตบ้าง  ปิดโทรศัพท์ใช้ธรรมชาติบำบัดชาร์จแบตให้พลังชีวิต
• ออกกำลังกายทำอาหารทานเอง หยุดข้ออ้างต่างๆนาๆ งานยุ่งบ้างอะไรบ้างไม่มีใครยุ่งเกินกว่าจะรักตัวเองหรอกค่ะ

ทั้งนี้การปรับให้ชีวิตสมดุลจะไม่สามารถทำได้เลยถ้าแม้แต่ตัวคุณยังไม่ให้ความร่วมมือ อย่ามัวแต่ทำงานหนักเกินจนลืมรักตัวเองและครอบครัวนะคะ

 

ข้อมูลสุขภาพจาก : โรงพยาบาลเปาโล

 

ชวนรู้จัก 3 ตัวแปรสำคัญที่ทำให้คุณพบเจอกับความสําเร็จในการทํางาน

ไม่ไหวอย่าฝืน!! เช็กความเศร้าอย่าปล่อยให้อยู่ในภาวะหมดไฟ