คุณผู้ชายรู้หรือไม่ ความเครียด-บ้างาน เพิ่มเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งต่อมลูกหมาก ถูกจัดให้เป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับต้นๆ ในผู้ชายไทย และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยลักษณะของโรคที่มีการเติบโตอย่างช้าๆ และไม่มีอาการบ่งชี้ที่ชัดเจน
ใครจะไปคิดว่าแค่ทำงานหนัก มุ่งมั่นกับการทำงานจะทำให้เราเสี่ยงเป็นมะเร็งได้ แต่เพราะความเครียดที่สะสมมานานวันทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัวนี่ล่ะ คือ ตัวการร้ายที่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผู้ชายเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากกันมากขึ้นทุกวันโดยความเสี่ยงสูงของคุณผู้ชายจะอยู่ที่อายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป แต่อย่างชะล่าใจเพราะหากมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงก็อาจเป็นบ่อเกิดของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้
3 สารอาหารคุณค่าดี ช่วยป้องกันโรค "มะเร็งต่อมลูกหมาก"
แสบ ขัด ปัสสาวะไม่สุด ระวังโรค "มะเร็งต่อมลูกหมาก"
ต่อมลูกหมากทำหน้าที่สร้างสารน้ำซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำอสุจิในเพศชาย โดยต่อมลูกหมากอยู่ใต้ต่อกระเพาะปัสสาวะและหุ้มรอบท่อปัสสาวะ มะเร็งต่อมลูกหมากมักพบได้ใน ผู้ชายสูงอายุ โดยคาดการว่าทั่วโลกจะมีผู้ป่วยใหม่ 1,600,000 คนต่อปี และเสียชีวิตจากมะเร็งต่อมลูกหมากประมาณปีละ 366,000 คน ส่วนใหญ่พบในผู้ชายอายุ 65 ปีขึ้นไป
พฤติกรรมสุ่มเสี่ยง
- สูบบุหรี่เป็นประจำ
- ดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก
- มีภาวะของความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว
- ทำงานหนัก อดหลับอดนอนตลอดเวลา
- ชอบกินอาหารฟาสต์ฟู้ด ไม่ค่อยกินผัก ผลไม้ที่มีประโยชน์กับร่างกาย
- ไม่ออกกำลังกาย
โดยพฤติกรรมเล่านี้จะเป็นชนวนเพิ่งความเสี่ยงในการเกิดโรคเมื่ออายุย่างเข้า 40 ผู้ชายก็จะมีความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว เมื่ออายุเพิ่มขึ้นทุกๆ 10 ปี และมากขึ้นเป็น 70%
ยิ่งเครียด ยิ่งเสี่ยงสูง
เพราะความเครียดที่สะสมกันนานๆ เข้า จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในร่างกาย ซึ่งหากมีภาวะความเครียดเป็นเวลายาวนาน ก็จะส่งผลเสียให้กับร่างกายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และหนึ่งในนั้นก็คือ ทำให้เกิดเป็นมะเร็งได้เช่นกัน ยิ่งรวมกับพฤติกรรมข้างต้นก็ยิ่งทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมากขึ้นไปอีก ยิ่งในคนที่เป็นมะเร็ง และมีความเครียดสูง ก็ยิ่งทำให้เชื้อมะเร็งลุกลามและแพร่กระจายไปมากกว่าเดิมได้
สัญญาณเตือนมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ปวดปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะในตอนกลางคืน
- ปัสสาวะไม่พุ่ง หรือปัสสาวะไม่หมด
- รู้สึกปวดเวลาปัสสาวะ หรือปวดเวลาที่หลั่งเมื่อถึงจุดสุดยอด
- อวัยวะเพศไม่ค่อยแข็งตัว
- มีเลือดปนในน้ำเชื้อ หรือปัสสาวะ
- มีอาการปวดหลัง, ข้อสะโพก หรือ เชิงกรานตลอดเวลา
- มีอาการเหนื่อย หายใจหอบ หัวใจเต้นเร็ว เวียนศีรษะ หรือผิวหนังซีดจากภาวะเลือดจาง
หากคุณมีอาการใดก็ตามที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยโดยละเอียด เพราะยิ่งตรวจพบเร็วเท่าใด โอกาสที่จะรักษาหายก็มีเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
ผลวิจัยพบกินหลัง 3 ทุ่ม เพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง20% แนะอย่ากินและนอนทันที
ในระยะเริ่มต้นของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ก้อนมะเร็งจะมีขนาดเล็กและอยู่เฉพาะในต่อมลูกหมาก ยังไม่ลุกลามกระจายตัวไปสู่อวัยวะอื่น หากตรวจพบได้เร็วและแพทย์วินิจฉัยได้ถูกต้องแม่นยำ จะสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยการผ่าตัดนำก้อนมะเร็งออกทั้งหมด แต่ถ้าเชื้อมะเร็งกระจายตัวแล้ว อาจต้องรักษาฉายรังสีและควบคุมฮอร์โมน (Hormonal therapy) ยับยั้งฤทธิ์ของฮอร์โมนเพศชายที่เรียกว่า “แอนโดรเจน” เพื่อไม่ให้ฮอร์โมนไปกระตุ้นการเติบโตของเซลล์มะเร็ง ซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธี คือ การใช้ยาต้านฮอร์โมน หรือการผ่าตัดลูกอัณฑะทั้งสองออก นอกจากนี้ยังสามารถรักษาด้วยยาเคมีบำบัด (chemotherapy) ยาต้านมะเร็งซึ่งสามารถผ่านไปทุกส่วนของร่างกาย เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งได้
ทั้งนี้หากรู้ตัวว่าเราเป็นคนหนึ่งที่ทำงานหนัก และมีภาวะเครียดสะสมบ่อยๆ ทางที่ดีควรหาเวลาพักผ่อน ทั้งทางสมองและร่างกาย หากิจกรรมอื่นๆ ที่ช่วยผ่อนคลาย หันไปออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพราะอย่างน้อย เมื่อจิตใจ และร่างกายเป็นสุข ก็ช่วยบรรเทา และลดโอกาสการเกิดโรคภัยต่างๆ ไปได้อีกทางหนึ่งนั่นเอง
ข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล,โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย