แสบ ขัด ปัสสาวะไม่สุด ระวังโรค "มะเร็งต่อมลูกหมาก"
มะเร็งต่อมลูกหมากมีอาการคล้ายกับต่อมลูกหมากโต คุณผู้ชายไม่ควรละเลยโรคนี้ เพราะหากพบในระยะที่ลุกลามอาจทำให้รักษาได้ยากยิ่งขึ้น
มะเร็งต่อมลูกหมาก ถูกจัดให้เป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับต้นๆ ในผู้ชายไทย และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยลักษณะของโรคที่มีการเติบโตอย่างช้าๆ และไม่มีอาการบ่งชี้ที่ชัดเจน หรือหากมีอาการก็จะมีลักษณะคล้ายกับอาการต่อมลูกหมากโต หรือต่อมลูกหมากอักเสบ ทำให้ถูกมองว่าเป็นโรคที่เกิดขึ้นตามวัย กว่าจะตรวจพบก็เป็นมากหรือลุกลามไปสู่อวัยวะสำคัญอื่นๆ ของร่างกาย
จับตา 5 มะเร็งยอดฮิต ก่อนคุกคามชีวิต "ผู้ชาย" ใกล้ตัว
"มะเร็ง" จำเป็นหรือไม่ต้องให้ "คีโม" รู้จักอีก 3 ทางเลือกการรักษา
ต่อมลูกหมาก
ต่อมลูกหมาก (Prostate Gland) เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของระบบสืบพันธุ์และระบบปัสสาวะชาย ตั้งอยู่บริเวณฐานของกระเพาะปัสสาวะ โดยแบ่งออกเป็น 2 ซีกและมีท่อปัสสาวะอยู่ตรงกลาง หน้าที่ของต่อมลูกหมากคือ ผลิตน้ำหล่อลื่น (Seminal Fluid) ที่อยู่ในน้ำอสุจิ (Semen)
มะเร็งต่อมลูกหมาก เกิดจากอะไร?
มะเร็งต่อมลูกหมากเกิดจากการเจริญเติบโตและแบ่งตัวที่ผิดปกติของเซลล์ต่อมลูกหมากจนกลายเป็นก้อนมะเร็ง โดยเซลล์มะเร็งเหล่านั้นจะสามารถแพร่กระจายผ่านกระแสเลือด หรือต่อมน้ำเหลืองไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ทำให้อวัยวะเหล่านั้นเสียหายและถูกทำลายในที่สุด
"สุดยอดอาหาร" อุดมคุณค่ากินได้ทุกวัน ทางออกของคนกลัวมะเร็ง
"ไฝ" แบบไหนถึงน่ากลัว สัญญาณร้ายโรคมะเร็งผิวหนัง
ปัจจัยเสี่ยง
- อายุ มะเร็งต่อมลูกหมากมักพบบ่อยในผู้ชายอายุเฉลี่ยประมาณ 65 ปีขึ้นไป
- ประวัติครอบครัว ถ้ามีคนในครอบครัว เช่น พ่อ พี่ชาย หรือน้องชายเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก จะทำให้เพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากมากขึ้น
- เชื้อชาติ จากการศึกษาพบว่า มะเร็งต่อมลูกหมากพบในคนแอฟริกันมากกว่าคนผิวขาว และพบน้อยในคนเอเชีย
- ความเครียด เมื่อสะสมกันนานๆ เข้า จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในร่างกาย ส่งผลเสียให้กับร่างกายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และหนึ่งในนั้นก็คือ ทำให้เกิดเป็นมะเร็งได้เช่นกัน
สัญญาณเตือนมะเร็งต่อมลูกหมากต้องระวัง!
คุณผู้ชายลองสำรวจตัวเองดูว่า คุณมีอาการเหล่านี้บ้างหรือไม่
- ปวดปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะในตอนกลางคืน
- ปัสสาวะไม่พุ่ง หรือปัสสาวะไม่หมด
- รู้สึกปวดเวลาปัสสาวะ หรือปวดเวลาที่หลั่งเมื่อถึงจุดสุดยอด
- อวัยวะเพศไม่ค่อยแข็งตัว
- มีเลือดปนในน้ำเชื้อ หรือปัสสาวะ
หากคุณมีอาการใดก็ตามที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยโดยละเอียด เพราะยิ่งตรวจพบเร็วเท่าใด โอกาสที่จะรักษาหายก็มีเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
วัคซีน HPV ผู้ชายก็ฉีดได้ ช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อก่อโรคมะเร็ง
ผู้หญิงควรสังเกต อาการบ่งชี้และสัญญาณเตือน "มะเร็ง"
ระยะโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
ระยะของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่
- ระยะที่ 1 ก้อนมะเร็งมีขนาดเล็กอยู่ภายในต่อมลูกหมาก ตรวจไม่พบจากการคลำผ่านทางทวารหนัก
- ระยะที่ 2 ก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่ขึ้นจนสามารถคลำได้ทางท่อทวารหนัก แต่ยังอยู่ภายในต่อมลูกหมาก
- ระยะที่ 3 มะเร็งลุกลามออกนอกต่อมลูกหมากเข้าเนื้อเยื่อข้างเคียง
- ระยะที่ 4 มะเร็งลุกลามเข้าสู่อวัยวะใกล้เคียง หรือแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ ผ่านทางกระแสเลือดและระบบไหลเวียนน้ำเหลือง ที่พบบ่อยคือ กระดูกและปอด
ตรวจวินิจฉัย
การตรวจวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมากสามารถทำได้โดย
- ซักประวัติ ประเมินหาความเสี่ยง ตรวจร่างกาย ทวารหนัก และส่องกล้องดูภายในกระเพาะปัสสาวะและต่อมลูกหมาก
- ตรวจเลือดเพื่อหาสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA) (Prostatic Specific Antigen) โดยเฉพาะในผู้ป่วยอายุระหว่าง 45 – 50 ปีที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากตั้งแต่อายุน้อย หากค่า PSA มากกว่า 10 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร หรือคลำพบก้อนแข็งหรือขรุขระถือว่าผิดปกติ ต้องตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
- ดัชนีสุขภาพต่อมลูกหมาก (PHI) (Prostate Health Index) ปัจจุบันมีการพัฒนาวิธีการตรวจที่เรียกว่า Prostate Health Index (PHI) หรือ ดัชนีสุขภาพต่อมลูกหมาก ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ในการคัดกรองผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก สามารถตรวจได้โดยเจาะเลือดผู้ป่วยแล้วใช้ชุดน้ำยาและเครื่องตรวจอัตโนมัติเพื่อหาค่ารวมของสาร 3 ตัวคือ PSA, Free PSA และ [-2]pro-PSA โดยมีความละเอียดมากยิ่งขึ้นและมีความน่าเชื่อถือมากกว่าการตรวจแบบ PSA ถึง 3.5 เท่า
- การตัดชิ้นเนื้อต่อมลูกหมาก หากพบว่ามีรอยโรคที่ต่อมลูกหมากที่สงสัยมะเร็ง โดยทั่วไปแนะนำให้มีการตัดชิ้นเนื้อจากบริเวณนั้นมาตรวจ เพื่อวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งหรือไม่
- การตรวจเพิ่มเติม เพื่อประเมินการลุกลามหรือระยะของโรค ได้แก่ การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็ก (MRI) ในบริเวณต่อมลูกหมากและอุ้งเชิงกราน การตรวจ X-Ray หรือ CT Scan ปอดและช่องท้อง การตรวจกระดูกด้วย Bone Scan
ปอดอักเสบ โรคร้ายแรงที่คุณสามารถป้องกันได้!
หน้าฝนต้องระวังสุขภาพ 5 โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ
การรักษามะเร็งต่อมลูกหมากประกอบด้วย
- การรักษาด้วยการผ่าตัด
- การรักษาด้วยรังสี (Radiotherapy)
- การรักษาด้วยฮอร์โมน (Hormonal Therapy)
- การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด (Chemotherapy)
ทั้งนี้การเลือกการรักษาขึ้นกับระยะของโรค (Staging) และปัจจัยเสี่ยง (Risk Factor) ต่าง ๆ
- ผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มความเสี่ยงต่ำ (Low Risk Group) การรักษาที่เหมาะสมจะเป็นการรักษาเฉพาะที่ (Local Treatment) ได้แก่ การผ่าตัดต่อมลูกหมาก (Radical Prostatectomy) หรือการใช้รังสีรักษาเฉพาะที่ต่อมลูกหมาก ซึ่งอาจจะเป็นการฉายรังสี (External Beam Irradiation) หรือการฝังแร่ (Brachytherapy)
- กรณีโรคลุกลามมากขึ้นและมีปัจจัยเสี่ยงมากขึ้นจนอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงปานกลาง (Moderate Risk Group) หรือกลุ่มความเสี่ยงสูง (High Risk Group) นอกจากการรักษาเฉพาะที่บริเวณต่อมลูกหมากแล้ว อาจต้องพิจารณาการรักษาในบริเวณข้างเคียง (Regional Treatment) หรือการรักษาทั้งระบบ (Systemic Treatment) ร่วมด้วย
- การรักษาบริเวณข้างเคียง ได้แก่ การผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองในบริเวณอุ้งเชิงกราน (Pelvic Lymph Node Dissection) หรือการฉายรังสีคลุมบริเวณอุ้งเชิงกราน (Pelvic Lymph Node Irradiation)
- การรักษาทั้งระบบ ได้แก่ การรักษาด้วยการลดฮอร์โมนเพศชาย (Androgen Deprivation Therapy) หรือการใช้ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy)
- ในกรณีที่โรคมะเร็งต่อมลูกหมากลุกลามมาก มีการกระจายไปยังอวัยวะต่าง ๆ หรือตัวผู้ป่วยมีสภาพร่างกายทั่วไปไม่แข็งแรง มีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงจากการรักษาได้ง่าย แนวทางการรักษาจะเน้นพิจารณาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเป็นหลัก และขึ้นอยู่กับสภาวะของโรค อาการ และความต้องการของผู้ป่วยและครอบครัว หรือเรียกว่าการดูแลเพื่อบรรเทาอาการ (Palliative Care)
ทั้งนี้ การรักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมากควรเป็นการดูแลผู้ป่วยร่วมกันเป็นทีม ระหว่างทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์สาขาต่าง ๆ เพื่อพิจารณาแนวทางการรักษาให้รอบด้าน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม โดยคำนึงถึงความต้องการของผู้ป่วยและครอบครัวเป็นสำคัญ
อย่าปล่อยให้โรคร้าย มาทำลายชีวิตที่มีความสุข จงหมั่นสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตนเอง และตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ
ขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ, โรงพยาบาลเปาโล