แผลในปากไม่ยอมหาย! 1 ใน สัญญาณ“มะเร็งช่องปาก” เจอเร็วรักษาได้
มะเร็งอันดับต้น ๆ ที่ชายและหญิงไทยเผชิญคือมะเร็งช่องปาก สัญญาณเล็กๆที่หลายคนมองข้าม อย่างเป็นแผลในปาก หากเป็นนานเกิด 2สัปดาห์ให้รีบพบแพทย์ พร้อมปัจจัยก่อโรคที่ต้องระวัง
มะเร็งสาเหตุการตายอันดับต้นของคนไทย และมีแนวโน้มสูงขึ้น จากข้อมูลล่าสุดโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยมะเร็งคนไทยรายใหม่ ถึงวันละ 336 คน หรือ 122,757 คน ต่อปี และเสียชีวิตวันละ 221 คน หรือ 80,665 คน ต่อปี
เชื่อหรือไม่ ? มะเร็งช่องปาก เป็นมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทยเป็น อันดับ 6 ในเพศชาย และอันดับ 8 ในเพศหญิง
ปัจจัยเกิดมะเร็งช่องปาก
มะเร็งช่องปาก มักเกิดกับกลุ่มคนอายุ 40 ปีขึ้นไป ที่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า หรือคนในแถบภาคอีสานที่ยังเคี้ยวหมากอยู่ก็จะเป็นปัจจัยเสี่ยงด้วยเหมือนกัน
"ฟันผุ" ปล่อยไว้นานเสี่ยงติดเชื้อ แนะวิธีดูแลก่อนระยะลุกลาม
“ฟันผุ” ไม่รีบรักษา เสี่ยงติดเชื้อรุนแรง อันตรายถึงชีวิต
งานวิจัยใหม่ๆ ในปัจจุบันว่า การติดเชื้อไวรัสก่อมะเร็ง อย่าง Human Papillomavirus (HPV) ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกับที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูก ก็เป็นอีกสาเหตุของปัจจัยเสี่ยงการเกิดมะเร็งช่องปากเช่นกัน และการติดเชื้อ HPV ในช่องปากนั้น มีความสัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ปาก Oral sex
อาการแสดงของมะเร็งช่องปาก
- มีแผลเรื้อรัง หรือมีก้อนนูนในช่องปากเป็นเวลานานกว่า 2 สัปดาห์
- เกิดรอยขาว และรอยแดงในช่องปาก จุดที่พบบ่อย คือลิ้น ช่วงข้างลิ้น กับใต้ลิ้นที่เจอบ่อยที่สุด ซึ่งต่างกับแผลร้อนในตรงที่แผลจากมะเร็งในช่องปากจะไม่หายเป็นนานเกิน 2 สัปดาห์
- ลักษณะของแผล ก็จะมีทั้งแบบที่ขอบยกนูน ขอบแข็ง บางคนอาจไม่มีอาการเจ็บเลยก็ได้ แต่แค่เห็นว่าเป็นรอยแผล
ตรวจคัดกรอง ทางป้องกันก่อนจะสาย
ผู้ที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง คุณหมอแนะนำว่าต้องตรวจคัดกรองมะเร็งในช่องปาก ซึ่งทำได้โดยการตรวจเนื้อเยื่ออ่อนทั่วไป หากว่ามีรอยโรค ก็จะข้ามไปอีกสเต็ปหนึ่งที่ต้องมีการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจอย่างละเอียด ส่วนในแง่ของคนที่ไม่มีรอยโรคเลย แต่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น
- สูบบุหรี่
- ดื่มเหล้า
- เคี้ยวหมาก
- มีเพศสัมพันธ์โดยใช้ปาก Oral sex และติดเชื้อ HPV
- นอกจากนี้ การมีฟันปลอมที่ไม่พอดี หรือมีฟันเก และเสียดสีกับลิ้นหรือกระพุ้งแก้มตลอดเวลาก็เป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งในช่องปากได้
การรักษาที่แตกต่างตามระยะของมะเร็ง
ก่อนที่จะเป็นมะเร็งช่องปาก มักมีลักษณะในช่องปากที่เป็นสัญญาณ สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะก่อนมะเร็ง แต่รอยโรคเหล่านี้มักไม่มีอาการ ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่เข้าใจว่าไม่เป็นอะไร พอมาพบหมอเพื่อตรวจก็มักจะมีอาการมากแล้ว คุณหมอได้บอกว่านั่นเป็นที่มาของการรักษาที่ยากลำบาก
สำหรับอาการของผู้เป็นมะเร็งช่องปาก
- การพบก้อน หรือติ่งเนื้อ หรือ แผล เกิดขึ้น โดยก้อนเนื้อเหล่านั้น จะโตขึ้นเรื่อยๆ
- เจ็บเวลาสัมผัส หรือเวลากินอาหาร บางครั้งอาจจะมีเลือดออกจากก้อน หรือ มีการอักเสบเกิดขึ้นได้ ในผู้ป่วยบางราย อาจเริ่มด้วยมีลักษณะของแผลที่เหงือก ร่วมกับฟันโยกคลอน และ หลุดออก หรือ ในบางราย
- อาจพบก้อน หรือ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอโตขึ้น โดยที่ความผิดปกติในช่องปากยังไม่มากก็ได้
หากพบว่า เป็นมะเร็งช่องปากตั้งแต่ระยะเริ่มต้นการรักษาจะไม่ซับซ้อน โดยเฉพาะถ้าเป็นระยะก่อนมะเร็งอาจจะแค่ตัดออก แล้วคอยติดตามอาการต่อเนื่องเท่านั้น แต่หากเป็นมะเร็ง และเป็นในระยะแรกๆ มีขนาดเล็ก ไม่ได้ลามไปต่อมน้ำเหลืองหรือจุดอื่น ผลสำเร็จของการรักษาก็จะค่อนข้างสูง
หากในระยะหลังที่มะเร็งมีขนาดใหญ่ หรือมะเร็งมีการลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง แพร่ไปอวัยวะอื่น ลักษณะนี้ถือว่าอันตรายแล้ว เพราะคุณสมบัติของมะเร็งทั่วไปไม่ว่าจะเกิดตรงไหน ก็สามารถลามไปยังส่วนอื่นได้ โดยเฉพาะถ้าลุกลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง มะเร็งก็จะแพร่ไปตามต่อมน้ำเหลือง สู่อวัยวะอื่นๆ ได้ในที่สุด
ฟันผุ-ฝีปริทันต์ อย่าละเลย ปล่อยไว้อาจติดเชื้อเสี่ยงเกิดอันตรายถึงชีวิต
การฉายรังสี เป็นหนึ่งในวิธีรักษามะเร็งหลายๆ ชนิดในร่างกาย รวมถึงมะเร็งในช่องปาก ศีรษะ และลำคอ ก่อนจะถึงขั้นตอนรักษาด้วยการฉายรังสี คุณหมอได้ให้คำแนะนำว่า ผู้ป่วยควรต้องทำการเคลียร์ช่องปากก่อน เพื่อลดปัญหาข้างเคียงของการฉายแสงในบริเวณนี้ “การเคลียร์ช่องปากก่อนการฉายรังสี ถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะรายที่ต้องฉายรังสีบริเวณช่องปาก ศีรษะ และลำคอ เพราะมีผลกระทบกับต่อมน้ำลาย ทำให้ปากแห้ง ซึ่งเป็นเหตุให้ฟันผุได้ง่าย ยิ่งไปกว่านั้นรังสีก็จะส่งผลกระทบไปยังกระดูกด้วย
ดังนั้น ปกติหมอก็จะให้ผู้ป่วยเคลียร์ช่องปากก่อนดีที่สุดในเคสที่ต้องฉายแสง ต้องให้ทันตแพทย์ช่วยประเมินว่าควรเก็บฟันซี่ไหน ซี่ไหนที่ไม่ควรเก็บก็ต้องถอนออกก่อนที่จะฉายรังสี เพราะสุดท้ายหากฟันที่เก็บไว้เป็นฟันซี่ไม่ดี แล้วต้องมาถอนฟันหลังจากที่ฉายรังสีไปแล้วก็จะนำไปสู่เรื่องใหญ่ หรือทำให้กระดูกตายได้
การป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งในช่องปาก
- ลดความเสี่ยงในการทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในช่องปาก เช่น ลดการสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การเคี้ยวหมากพลู การสูบยาเส้นหรือยาฉุน
- รับประทานอาหาร ผักและผลไม้หลากหลายชนิดที่อุดมไปด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ
- หมั่นตรวจสุขภาพของช่องปากและฟันทุก 6 เดือน
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล ,โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาดไทย
ช่องปากสำคัญ!“หมอมนูญ”ยกเคสแค่"ฟันผุ"เสี่ยงเกิดหนองในช่องเยื่อหุ้มปอด
อันตราย! ใช้ผงพิเศษอุดฟัน อาจแพ้หนักจนถึงขั้นเสียชีวิต