“ปัสสาวะเล็ด”ในผู้หญิงขณะไอ-จาม ปัญหาที่รักษาได้ไม่ต้องผ่าตัด
“ปัสสาวะเล็ด” ปัญหาเรื้อรังของคุณผู้หญิงที่ถึงแม้จะไม่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตแต่ก็รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อย เพราะสร้างความเครียด กังวลและทำให้รู้สึกรำคาญ คุณผู้หญิงบางคนอาจจะเป็นมากจนต้องใส่ผ้าอนามัยทุกวัน ทำให้ไม่สะดวกในการใช้ชีวิต
ปัสสาวะเล็ดขณะไอจาม หัวเราะ ออกกำลังกาย หรือยกของหนัก ผู้ป่วยมักไม่มีความรู้สึกอยากถ่ายปัสสาวะ แต่น้ำปัสสาวะออกมาเองและบางครั้งก็กลั้นไม่อยู่จนต้องวิ่งเข้าห้องน้ำแบบเร่งด่วน เป็นภาวะหนึ่งที่มีคุณผู้หญิงมากมายต้องประสบปัญหา สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ขึ้นก็คือ กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานที่คอยพยุงท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะหย่อนยาน หรือ จะเรียกว่ามีอาการของหูรูดท่อปัสสาวะมีการเสื่อมสภาพก็ได้
“ปัสสาวะไม่ออก-แสบขัด” สัญญาณบอกกระเพาะปัสสาวะผิดปกติเกิดการอุดกั้น
“ปัสสาวะบ่อย-กลั้นไม่อยู่” อาจเป็นสัญญาณ “กระเพาะปัสสาวะบีบตัวไว”
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ดในผู้หญิง
- การสูบบุหรี่
- ดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม มีสารกระตุ้นให้เกิดการปัสสาวะบ่อย
- อายุที่มากขึ้น
- ภาวะไอเรื้อรัง
- ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ทำให้เยื่อบุในกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะเสื่อมสภาพ
- ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือ โรคอ้วน
- ผู้มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน
- มีเนื้องอกในช่องท้อง
- ทำให้มีแรงดันในช่องท้องเยอะอยู่ตลอดเวลา
- ผู้ป่วยที่ระบบประสาทส่วนควบคุมกระเพาะปัสสาวะสูญเสียจากอุบัติเหตุบริเวณไขสันหลัง หรือภาวะหลอดเลือดสมองตีบตัน
เมื่อคุณเริ่มมีอาการ ปัสสาวะเล็ดขณะไอจาม บ่อยมากขึ้น ให้คุณรีบมาปรึกษาแพทย์ โดยการรักษามีหลากหลายวิธี ซึ่งหาผู้ผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง อาการจะดีขึ้นภายใน 3-6 เดือน
- ตั้งแต่การแนะนำให้คนไข้ฝึกปฏิบัติด้วยตนเองด้วยการฝึกขมิบช่องคลอด ซึ่งเป็นวิธีที่ที่ง่ายและได้ผลดี แต่ถ้าคนไข้หยุดปฏิบัติ โอกาสที่จะกลับมาเป็นอีกก็มีสูง ซึ่งถ้าทำอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอต้องทำ 30 ครั้งขึ้นไป วันละ 3 เวลา เช้า กลาง เย็น เป็นอย่างน้อย จะช่วยป้องกันภาวะกระบังลมหย่อยและปัสสาวะเล็ดได้
- การลดน้ำหนัก ควบคุมพฤติกรรมกินอาหารโดยเฉพาะกลุ่มชากาแฟ และน้ำอัดลม
- รักษาอาการไอจามเรื้อรัง
- รักษาอาการท้องผูก
ปัสสาวะปนเลือด สัญญาณ “มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ” สูบบุหรี่เสี่ยงเพิ่ง 3-4 เท่า
สำหรับผู้ที่มีอาการมากหรือไม่สามารถต้องฝึกปฏิบัติเองได้ก็จะมีวิธีการฉีดสารช่วยลดขนาดท่อปัสสาวะ และวิธีสุดท้ายก็คือการผ่าตัด ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี อย่างเช่น เทคนิค Tension free Vaginal Tape (TVT ) ซึ่งเป็นการผ่าตัดเพื่อใส่แผ่นตาข่ายพิเศษพยุงท่อปัสสาวะเพื่อหยุดการรั่วซึมของน้ำปัสสาวะทำได้สะดวกรวดเร็ว ใช้เวลาผ่าตัดไม่นาน ประมาณ 30-40 นาทีอีกทั้งแผลก็มีขนาดเล็กจึงฟื้นตัวเร็ว มีภาวะแทรกซ้อนน้อย พักโรงพยาบาลเพียง 1 – 2 วันก็สามารถกลับบ้านได้
อาการปัสสาวะเล็ดขณะไอจาม อาจจะเป็นเรื่องเล็กที่คุณไม่ควรมองข้ามไปซะทีเดียว เพราะปล่อยไว้จนมีอาการรุนแรง แน่นอน ต้องทำให้การใช้ชีวิตประจำวันได้รับผลกระทบมากมาย แต่ปัญหานี้ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่จะต้องกังวล ถ้าหากคุณตัดสินใจที่จะเข้ามารับการรักษาตั้งแต่เริ่มมีไม่ปล่อยทิ้งเอาไว้นานถึงขั้นต้องผ่าตัด
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพ
อั้นปัสสาวะ-กินน้ำน้อยเสี่ยง “กระเพาะปัสสาวะอักเสบ”พร้อมสัญญาณเตือนโรค
แค่ไม่กินอาหารเช้าเสี่ยงสารพัดโรค เสี่ยงอัมพฤกษ์-อัมพาตและโรคนิ่ว