“ฮีทสโตรก” อาการเป็นอย่างไร ? วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น ใครบ้างเสี่ยง
หลายจังหวัดในไทยมีอุณหภูมิขึ้นต่อเนื่องแล้ว และสุ่มเสี่ยงต่อ ฮีทสโตรก (Heatstroke) จากอากาศร้อนจัด ที่ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ วิธีปฐมพยาบาลและการดูแลตัวเองจึงสำคัญ!
ฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือโรคลมแดด เป็นภาวะวิกฤตที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวหรือควบคุมระดับความร้อนภายในร่างกายได้ ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะ หน้ามืด เพ้อ ชัก ไม่รู้สึกตัว หายใจเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ช็อก ผู้ป่วยที่เป็นฮีทสโตรก มักมาด้วยอาการ 3 อย่าง คือ มีไข้สูง กว่า 40.5 องศา ระบบประสาทส่วนกลางทำงานผิดปกติ และไร้เหงื่อ
เตือนภัยหน้าร้อน! ฮีทสโตรก เสี่ยงรุนแรงทำลายระบบสมอง! อันตรายถึงชีวิต
สธ. แนะวิธีปฐมพยาบาล “ฮีทสโตรก” คาดปีนี้อุณหภูมิจะสูงกว่าปีที่ผ่านมา!
หากปล่อยทิ้งไว้ให้มีอาการหรือไม่สามารถระบายความร้อนออกได้มากกว่า 2 ชั่วโมง อาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อหัวใจ สมอง ไต และกล้ามเนื้อ ก็มีอันตรายถึงชีวิตได้!
สัญญาณเตือนฮีทสโตรก
- ตัวร้อนมาก อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
- ผิวหนังแห้งและร้อน ตัวร้อนขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีเหงื่อออก
- ความดันโลหิตลดลง หัวใจเต้นเร็วมาก ใจสั่น ชีพจรเต้นเร็ว
- กระหายน้ำมาก
- วิงเวียน ปวดศีรษะ มึนงง
- หน้ามืดคลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย
- อาจถึงขั้นชักกระตุก เกร็ง และหมดสติไป
ใครที่มีความเสี่ยงฮีทสโตรก
- เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ดีเท่าคนหนุ่มสาว
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง หรือโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน
- ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินหรืออ้วน
- ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ
- ผู้ที่ทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแดดเป็นเวลานาน เช่น ออกกำลังกาย นักกีฬากอล์ฟ เกษตรกร ผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- ผู้ที่ทำงานออฟฟิศ ที่ทำงานในห้องแอร์เป็นเวลานานแล้วออกมาเจอกับอากาศร้อนจัด จนร่างกายปรับตัวไม่ทัน
- ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม และในสภาพอากาศที่ร้อนจัด
- แอลกอฮอล์ออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือดเร็วและแรงขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น จนอาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้
หากพบคนเป็นลมแดด ควรทำอย่างไร ?
- รีบนำคนป่วยเข้าไปอยู่ในที่ร่ม อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่โดนแสงแดด เพื่อลดอุณหภูมิในร่างกายลง
- ให้คนป่วยนอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น
- คลายเสื้อผ้าให้หลวม เพื่อระบายความร้อนได้ไวขึ้น
- ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น หรือน้ำแข็งประคบตามซอกคอ ตัว รักแร้ ขาหนีบ หน้าผาก ใช้พัดลมช่วยเป่าระบายความร้อน เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกายให้ต่ำลงอย่างรวดเร็วที่สุด
- หากไม่หมดสติให้ดื่มน้ำเปล่ามากๆ และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
10 สารอาหารบำรุงสมอง ลดภาวะสมองล้า ไม่เสื่อมง่ายก่อนวัย!
วิธีป้องกันตัวเองจากฮีทสโตรก
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรืออยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนจัด
- สวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีอ่อน โปร่ง ไม่หนา น้ำหนักเบา ระบายความร้อนได้ดีและป้องกันแสงแดดได้
- กางร่ม สวมหมวกเมื่ออยู่กลางแจ้ง
- จิบน้ำบ่อยๆ เพื่อเติมความชุ่มชื้นและลดอุณหภูมิร่างกาย หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา รวมถึงกาแฟ และเครื่องดื่มน้ำตาลสูง
- อย่าทิ้งเด็ก ผู้สูงอายุ หรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถที่จอดอยู่กลางแจ้ง
- เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ไม่ควรอยู่ในที่อากาศร้อนและไม่ควรอยู่ตามลำพัง
- สำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย แนะนำออกกำลังกายในที่ที่อากาศถ่ายเท ควรเลือกในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น เนื่องจากเป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อนมาก และควรมีการอบอุ่นร่างกายก่อนทุกครั้ง
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวหากมีอาการผิดปกติ หรืออาการที่บ่งบอกตามข้างต้น ขอให้รีบพบแพทย์โดยทันที
ทั้งนี้อย่ามองข้ามอันตรายจากอากาศร้อนเด็ดขาดโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง และบุคคลที่ทำงานกลางแจ้งรวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งในอากาศร้อนจัดด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท
เทคนิคลดน้ำหนักตามกรุ๊ปเลือด เลือกกิน-ออกกำลังกายเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า!
โควิด-19 รอบสัปดาห์ เข้าฤดูร้อน ผู้ติดเชื้อ-ป่วยหนักและเสียชีวิตลดลง