วิธีแก้เท้าเหม็น เผยสาเหตุกลิ่นอับชื้น เลี่ยงได้ช่วยลดปัญหาได้
คนที่สวมรองเท้าตลอดวัน มักต้องเจอกับปัญหาเท้าเหม็น ทำให้เสียบุคลิกเป็นปัญหาโดยรวมได้ เผยวิธีการแก้เท้าเหม็นให้ตรงจุด บอกลาปัญหาเท้าเหม็นได้
คนที่สวมรองเท้าตลอดวัน มักต้องเจอกับปัญหาเท้าเหม็น กลิ่นตลบอบอวล ซึ่งมักเป็นปัญหาที่บอกใครไม่ได้ และไม่มีใครกล้าบอกกัน ยิ่งกลิ่นแรงมาก หากถอดรองเท้าออกในห้องแอร์ โดยเฉพาะช่วงที่สภาพอากาศร้อนชื้นทำให้เหงื่อออกง่าย กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ย่อมส่งผลกระทบต่อการเข้าสังคม เป็นจุดเริ่มต้นของการสูญเสียความมั่นใจ หรือทำให้บุคลิกภาพแย่ลงได้ ดังนั้น การเข้าใจถึงต้นตอของปัญหาและรู้จักวิธีการดูแลสุขอนามัยเท้าที่เหมาะสม จะช่วยลดโอกาสเกิดโรคเท้าเหม็นและเป็นการป้องกันตัวเองจากโรคเท้า

ใครอยากรู้ว่าควรดูแลเท้าอย่างไรให้ไร้กลิ่นเหม็น มาเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดกลิ่นเท้าและวิธีแก้ไขอย่างถูกต้องได้เลย
สาเหตุเท้าเหม็น
- เหงื่อออกมาก เท้าเป็นส่วนของร่างกายที่มีต่อมเหงื่อจำนวนมาก จึงมีโอกาสที่จะเกิดความอับชื้นและพอรวมเข้ากับแบคทีเรียที่สะสม ส่งผลให้เกิดกลิ่นเหม็นอับที่เท้า
- รองเท้าไม่ระบายอากาศ วัสดุที่ใช้ทำรองเท้าบางชนิดไม่ยอมให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีผลให้เกิดการสะสมของเหงื่อมากขึ้น จนทำให้เกิดความอับชื้นและเท้าเหม็นขึ้นกว่าเดิม
- การสะสมเชื้อแบคทีเรีย เหงื่อที่สะสมอยู่ในถุงเท้าและรองเท้า ทำให้เกิดการก่อตัวของเชื้อแบคทีเรีย และทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้
- การดูแลสุขอนามัยที่เท้าไม่เพียงพอ การล้างเท้าไม่สะอาดหรือไม่เช็ดเท้าให้แห้ง อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดกลิ่นเหม็นได้เช่นกัน
- โรคผิวหนังหรือมีแผลที่เท้า เชื้อจุลินทรีย์จากโรคทางผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็น โรคเท้าเปื่อย หรือโรคหูดที่เท้า อาจเป็นสาเหตุให้เท้ามีกลิ่นที่รุนแรงได้
วิธีแก้เท้าเหม็น
- ดูแลรักษาสุขอนามัยเท้าอยู่เสมอ หากไม่อยากมีกลิ่นเท้า การล้างเท้าด้วยสบู่เป็นวิธีการพื้นฐานที่ทุกคนควรทำทุกวัน โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเล็บขบยิ่งต้องใส่ใจความสะอาดให้มากขึ้น ทั้งนี้ แนะนำให้เลือกสบู่ที่มีส่วนผสมของสารต้านแบคทีเรีย และใช้แปรงขัดเท้าเบา ๆ เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป เพียงเท่านี้ก็จะช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ได้แล้ว
- เปลี่ยนถุงเท้าและรองเท้า หลีกเลี่ยงการใส่คู่เดิมซ้ำ ๆ การใส่ถุงเท้าและรองเท้าคู่เดิมติดต่อกันหลายวัน จะยิ่งเกิดการสะสมเหงื่อและแบคทีเรีย ดังนั้น จึงควรเปลี่ยนถุงเท้าคู่ใหม่ทุกวัน และหลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าคู่เดิมติดต่อกันหลายวัน รวมถึงเลือกเก็บรองเท้าในที่ที่ระบายอากาศได้ดี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีแก้รองเท้าเหม็นที่เห็นผลได้จริง
- เลือกถุงเท้าและรองเท้าที่เหมาะสม การเลือกสวมถุงเท้าและรองเท้าที่ผลิตจากวัสดุที่ระบายอากาศหรือระบายเหงื่อได้ดี รวมถึงหลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าที่คับเกินไป จะช่วยป้องกันปัญหาเท้าเหม็นได้
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร อาหารบางประเภทอาจกระตุ้นให้ร่างกายมีการปล่อยกลิ่นออกมากับเหงื่อได้ โดยเฉพาะอาหารที่มีส่วนประกอบของกระเทียมหรือเครื่องเทศบางชนิด หากไม่อยากเท้าเหม็นจึงควรควบคุมการบริโภคอาหารในกลุ่มนี้
- แช่เท้าในน้ำส้มสายชูหรือน้ำเกลือ การแช่เท้าในน้ำอุ่นที่ผสมน้ำส้มสายชูหรือเกลือ มีส่วนช่วยลดการเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราได้ โดยแนะนำให้แช่เท้าสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 15-20 นาที
- อย่าปล่อยให้เท้าเปียก พยายามทำให้เท้าแห้งอยู่เสมอ การปล่อยให้เท้าเปียกเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดกลิ่นเท้าได้ง่าย ดังนั้น การเช็ดเท้าให้แห้งทุกครั้ง หรือใช้แป้งฝุ่นช่วยดูดซับความชื้น จึงเป็นวิธีแก้เท้าเหม็นที่เริ่มต้นได้ง่ายที่สุด
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกำจัดกลิ่นเท้า ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบสเปรย์หรือแป้งที่มีคุณสมบัติในการกำจัดกลิ่นเท้า จะมีส่วนผสมของสารต้านแบคทีเรียที่ช่วยลดกลิ่นและควบคุมเหงื่อได้ ดังนั้น จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีปัญหากลิ่นเท้ารุนแรง
หากอาการเท้าเหม็นไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีข้างต้น การปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม จะช่วยบรรเทากลิ่นเหม็นได้อย่างเห็นผล ทั้งนี้ แพทย์อาจให้ยาต้านเชื้อราหรือยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เพื่อกำจัดต้นตอของปัญหาและแก้เท้าเหม็นอย่างถาวร
หากปัญหาเท้าเหม็นรบกวนการใช้ชีวิตและทำให้ความมั่นใจลดลง จำเป็นต้องรีบแก้ปัญหาเหล่านี้ให้หายขาดโดยด่วน เพื่อลดปัญหา กลิ่นเท้าที่เกิดจากเหงื่อ การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อราบนผิวหนัง แพทย์จะช่วยวิเคราะห์สาเหตุและแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์