วัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก เผยเหตุผลที่ฉีดในเด็กประสิทธิภาพสูงกว่า
ไวรัส HPV หลายคนคงเข้าใจว่าหากติดแล้วเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงเท่านั้นแต่ในความจริงแล้ว ผู้ชายก็เสี่ยงไม่แพ้กัน เพราะนำมาซึ่งโรคมะเร็งร้ายสารพัดทั้ง มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งช่องปาก มะเร็งทวารหนัก และหูดที่อวัยวะเพศ ต่างๆ ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยวัคซีน HPV ที่ได้ผลดีมากกว่าหากฉีดตอนอายุยังน้อย หรือตั้งแต่ 9 ปีขึ้นไป ที่ได้ทั้งหญิงและชาย รู้ให้ลึกกว่าเดิมว่าทำไมถึงต้องฉีดและในคุณผู้หญิงต้องตรวจมดลูกก่อนฉีดหรือไม่ คลายทุกข้อกังวลได้ที่นี้!
ไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) เป็นสาเหตุของโรคหลายชนิด สามารถเกิดการติดต่อได้หลายช่องทาง เช่น ทางปาก ช่องคลอด ทางทวารหนัก หรือการสัมผัสกับเชื้อโดยตรง ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะได้รับเชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่ติดเชื้อ เป็นหลักอย่างน้อย 80-90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเมื่อติดเชื้อเซลล์ปากมดลูกก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์มะเร็ง ซึ่งผู้หญิงที่ติดเชื้อมักจะไม่มีอาการผิดปกติใดๆ เป็นระยะเวลานาน แต่จะมาพบเมื่อมีอาการรุนแรงแล้ว หรือมะเร็งอาจเข้าสู่ระยะลุกลามแล้ว
สถานเสาวภา- รพ.จุฬา ฉีดวัคซีน HPV ฟรี! เช็กสถานที่และเงื่อนไขบริการ!
สธ.เร่งฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูกในเด็ก ป.5 ที่ตกค้างตามสิทธิ
เชื้อ HPV ไม่ได้เสี่ยงเป็นแค่มะเร็งปากมดลูก
คุณผู้หญิงอาจคุ้นชินว่าเชื้อ HPV ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ความจริงแล้วเชื้อ HPV สามารถก่อให้เกิดโรคอื่นๆ ได้อีกด้วย ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ไม่ว่าจะ มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งช่องปาก มะเร็งทวารหนัก และหูดที่อวัยวะเพศ
วัคซีน HPV กี่สายพันธุ์
วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV มี 3 ชนิด ได้แก่
- วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV ชนิด 2 สายพันธุ์ (ครอบคลุมสายพันธุ์ 16 และ 18) จะสามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 70%
- วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV ชนิด 4 สายพันธุ์ (คลอบคลุมสายพันธุ์ 6, 11, 16 และ 18) จะสามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 90% และป้องโรคหูดหงอนไก่ มะเร็งทวารหนักในเด็กผู้ชายได้ด้วย
- วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ (ครอบคลุมสายพันธุ์ 6, 11, 16, 18, 31, 33, 45, 52 และ 58) เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตายที่พัฒนามาจากวัคซีน HPV ชนิด 4 สายพันธุ์ ซึ่งช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูก เเละหูดหงอนไก่ได้ถึง 99%
การวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV ไม่จำเป็นต้องฉีดเฉพาะในผู้หญิงเท่านั้น เพราะผู้ชายก็สามารถฉีดได้ เพื่อเป็นการป้องกันโรคติดเชื้อ HPV ในผู้ชาย เช่น มะเร็งในช่องปาก โรคหูดหงอนไก่ และมะเร็งทวารหนัก
วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV ต้องเริ่มฉีดตอนอายุเท่าไหร่
- เริ่มฉีดวัคซีนปากมดลูกในผู้หญิงตั้งแต่อายุ 9-45 ปี โดยเน้นให้ฉีดในช่วงอายุ 9 – 14 ปี
- เริ่มฉีดวัคซีนปากมดลูกในผู้ชายตั้งแต่อายุ 9-26 ปี โดยเน้นให้ฉีดในช่วงอายุ 9 – 14 ปี
ฉีดวัคซีน HPV แบบไหนดีที่สุด
- ประสิทธิภาพวัคซีนสูง หากฉีดในวัยที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน
- ฉีดในวัยที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี จากงานวิจัยพบว่า ร่างกายของเด็กผู้หญิงสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสนี้ได้ดีในช่วง 9 – 15 ปี ซึ่งสามารถฉีดวัคซีนเพียง 2 ครั้ง แต่ได้ประสิทธิภาพเทียบเท่าการฉีด 3 ครั้ง
- ผู้หญิงอายุ 9 – 26 ปี ควรฉีดวัคซีน HPV โดยเน้นให้ฉีดช่วงอายุ 11 – 12ปี
- เด็กผู้ชายอายุ 9 – 26 ปี สามารถฉีดวัคซีน HPV ชนิด 4 สายพันธุ์เพื่อป้องกันโรคหูดหงอนไก่และมะเร็งทวารหนัก เน้นให้ฉีดช่วงอายุ 11 – 12 ปี
วัคซีน HPV ฉีดให้ถูกต้อง ต้องฉีดให้ครบถ้วนทั้งหมด 3 ครั้ง
- ครั้งที่ 1 : ฉีดในวันที่กำหนดเลือก
- ครั้งที่ 2 : ฉีดหลังจากเข็มแรก 1 – 2 เดือน
- ครั้งที่ 3 : ฉีดหลังจากเข็มแรก 6 เดือน
- ในเด็กผู้หญิง หากฉีดเข็มแรกก่อนอายุ 15 ปี สามารถฉีดวัคซีนเพียง 2 ครั้ง ห่างกัน 6 – 12 เดือน
ข้อดีของวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV
- สามารถฉีดร่วมกับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
- ผลข้างเคียงน้อย อาจมีแค่อาการปวด บวม ไข้ แต่ก็สามารถหายได้เอง
- ลดโอกาสการติดเชื้อ HPV ได้ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย
- ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก
ผู้ที่ห้ามฉีดวัคซีน HPV
- ผู้ที่ภาวะภูมิไวเกิน (Hypersensitivity) ต่อสารประกอบในวัคซีน
ต้องตรวจมะเร็งปากมดลูก ก่อนวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV ไหม?
สามารถฉีดได้เลย โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องตรวจภายในก่อน เพื่อหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เพราะการฉีดวัคซีนเป็นการป้องกันการติดเชื้อในอนาคต แต่การตรวจภายในเป็นการตรวจหาเซลล์ผิดปกติที่อาจเกิดจากการติดเชื้อมาก่อนนี้ แต่อาจยังไม่แสดงอาการเตือนใดๆ
หากเคยติดเชื้อ HPV ควรฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV อีกหรือไม่?
หากเคยติดเชื้อ HPV มาก่อนการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV ก็ยังถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากเป็นการป้องกันติดเชื้อ HPV ในสายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่เคยติดมาก่อน หรือป้องกันการได้รับเชื้อซ้ำในกรณีที่เคยได้รับเชื้อ HPV และหายแล้ว
เชื้อ HPV ก่อมะเร็งปากมดลูก ไม่ใช่แค่เรื่องของผู้หญิง ผู้ชายก็เสี่ยงมะเร็งได้
จะรู้ได้อย่างไรว่าเสี่ยงติดเชื้อ HPV
- มีหูดขึ้น (พบได้บ่อย) มีทั้งลักษณะที่เป็นตุ่มนูน ตุ่มเรียบแบน โดยอาจเกิดขึ้นบริเวณช่องคลอด ปากมดลูก อัณฑะ ทวารหนัก ขาหนีบ หรือขาอ่อน
- มีอาการคันหรือแสบร้อนบริเวณที่ติดเชื้อ
- มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์
- ตกขาวมีกลิ่นเหม็น ปริมาณมากกว่าปกติ
- ประจำเดือนมาผิดปกติ
หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบมาพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจวินิจฉัย และหาแนวทางการป้องกัน หรือรักษาให้ตรงจุด ตามปัจจัยเสี่ยงของแต่ละรายบุคคลเพราะ ไวรัส HPV ไม่เพียงแต่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก ยังรวมไปถึงมะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด และหูดอวัยวะเพศด้วย ดังนั้นการป้องกันโรคด้วยการฉีดวัคซีน HPV ให้ครบถ้วนตั้งแต่อายุยังน้อยย่อมช่วยให้ห่างไกลโรคได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโลและโรงพยาบาลกรุงเทพ
สัญญาณ “มะเร็งปากมดลูก” ใครบ้างเสี่ยงโรคร้ายคร่าชีวิตหญิงไทยอันดับ 1
ติดเชื้อ HPV ไม่เท่ากับเป็นมะเร็งปากมดลูก? เช็กความเสี่ยงและวิธีป้องกัน