วัคซีน HPV ทำไมจึงสำคัญ? ทำไมการฉีดในเด็กจึงมีประสิทธิภาพมากกว่า
รู้หรือไม่? ผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกเกือบทั้งหมดถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อ HPV ที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน HPV และผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น
การฉีดวัคซีน HPV ให้ได้ผลดี คือการฉีดตั้งแต่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ในช่วงวัยที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสชนิดนี้ได้ดีโดยแพทย์แนะนำว่าสามารถฉีดได้ตั้งแต่ เด็กช่วงอายุ 9-15 ปี นั้น การฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็ม จะได้ประสิทธิภาพเทียบเท่าการฉีด 3 เข็มในผู้ใหญ่ สามารถมะเร็งปากมดลูกป้องกันได้ถึง 90% นอกจากนี้ยังป้องกันมะเร็งปากช่องคลอด ทราวหนัก ช่องปาก ลำคอ รวมไปถึงหูดหงอนไก่ เป็นมะเร็งชนิดเดียวที่มีวัคซีนป้องกัน และไม่จำเป็นต้องฉีดกระตุ้น เพียงฉีดให้ครบคอร์สตามจำนวนเข็มที่กำหนดก็สามารถป้องกันได้ตลอด
สัญญาณ “ติดเชื้อไวรัส HPV” บางรายไม่มีอาการแต่เป็นพาหะนำโรค!
เชื้อ HPV ปัจจัยก่อ “มะเร็งช่องปาก” ใครบ้างเสี่ยง? สัญญาณรีบพบแพทย์!
ทำไมการฉีดวัคซีน HPV จึงสำคัญ!
เชื้อไวรัส HPV นับว่าเป็นเชื้อที่มีการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยที่สุด โดยมีรายงานว่า
- ในปี ค.ศ. 2003-2006 ผู้หญิงในประเทศสหรัฐอเมริกา มีการติดเชื้อ HPV มากกว่า 1 สายพันธุ์ ถึง 21.6% และ
- ในปี ค.ศ. 2008 ได้มีรายงานจาก Sexually Transmitted Diseases ว่ามีผู้ติดเชื้อ HPV ที่เป็นผู้หญิงกว่า 39.9 ล้านคน และผู้ชายอีกกว่า 39.2 ล้านคน
วัคซีน HPV ฉีดแล้ว...ป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้มากแค่ไหน
เชื้อไวรัส HPV ที่ก่อให้เกิดโรคบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักนั้นมีอยู่กว่า 40 สายพันธุ์ ซึ่งสายพันธุ์ที่เป็นต้นเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูกที่พบมากถึง 70% คือสายพันธุ์ 16 และ 18 จึงได้มีการผลิตวัคซีนสำหรับป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์นี้ขึ้น
ทั้งนี้ยังมีไวรัส HPV สายพันธุ์อื่นๆ ที่สามารถทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ 33, 35, 39, 40, 43, 45, 51-56, 58 ทำให้วัคซีน HPV ไม่สามารถป้องกันเชื้อ HPV บางสายพันธุ์ที่ไม่ได้นำมาผลิตเป็นวัคซีนได้
กำหนดการฉีดวัคซีนHPVขึ้นกับอายุที่เริ่มฉีดวัคซีน
- ก่อนอายุ 15 ปี (ก่อนวันเกิดครบอายุ 15 ปี) ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 6-12 เดือน
- หลังอายุ 15 ปี ฉีด 3 เข็ม ที่ 0, 2 และ 6 เดือน
- ถ้ามีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง แนะนำให้ฉีด 3 เข็ม ที่ 0, 2 และ 6 เดือน โดยไม่คำนึงถึงอายุ
- กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ฉีดวัคซีนเอชพีวี ในเด็กหญิงอายุ 11-12 ปี เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก โดยฉีด 2 เข็มห่างกัน 6-12 เดือน
- หากเป็นวัคซีน 2 สายพันธุ์ ฉีด 3 เข็มที่ 0, 1 และ 6 เดือน
ห้องน้ำสาธารณะเสี่ยงติดเชื้อ HPV ก่อมะเร็งปากมดลูกจริงหรือไม่?
ผลข้างเคียงวัคซีน HPV
- วัคซีนมีความปลอดภัยสูง ยังไม่พบว่ามีการเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนโดยตรง
- อาการข้างเคียงที่พบบ่อยคือ ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีดยา ซึ่งไม่รุนแรง และหายได้เองภายใน 2-3 วัน
- อาการข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจพบ ได้แก่ ไข้ คลื่นไส้ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ซึ่งไม่รุนแรงและหายได้เอง
ภายหลังการฉีดเสร็จสิ้นควรสังเกตอาการหลังฉีดวัคซีนแต่ละครั้งเป็นเวลา 15 นาทีและควรคุมกำเนิดหลังจากฉีดวัคซีนครบแล้วอย่างน้อย 1 เดือน
เคยรับเชื้อไวรัส HPV แล้ว จำเป็นต้องฉีดวัคซีนหรือไม่?
จำเป็น! ลดโอกาสเป็นซ้ำ โดยวัคซีนจะป้องกันติดเชื้อ HPV ในสายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่เคยติดมาก่อน และป้องกันการได้รับเชื้อซ้ำในกรณีที่เคยได้รับเชื้อ HPV และหายแล้ว เนื่องจากภูมิจากวัคซีนจะมีระดับที่สูงกว่าภูมิโดยธรรมชาติ
มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งชนิดเดียวที่มีวัคซีนป้องกันและรู้ถึงสาเหตุแต่ยังเป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้หญิงได้เป็นอันดับหนึ่ง ฉะนั้นจึงไม่ควรมองข้ามการฉีดวัคซีนHPV และ ตรวจภายใน เป็นประจำย่อมดีกว่าการมีอาการแล้วจึงไปพบแพทย์
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล,โรงพยาบาลพญาไทและโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ภาพจาก : freepik และ shutterstock
"หูด"สัญญาณติดเชื้อ HPV- หูดหงอนไก่เสี่ยงมะเร็งปากมดลูกหรือไม่?
สายพันธุ์ไวรัส HPV ชนิดไหนรุนแรงเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก-หูดหงอนไก่