แพทย์แนะ 5 วิธีไกลโรค รับมืออากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน
อากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลันเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนล้มป่วยได้ แพทย์จึงแนะ 5 วิธีรับมือ ดูแลตัวเองให้แข็งแรง
ช่วงนี้ประเทศไทยสภาพอากาศแปรปรวน ทั้งฝนตก ทั้งร้อน ทั้งหนาว อากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลันเช่นนี้มักทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ภูมิต้านทานลดต่ำลง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงอย่างเด็ก ผู้สูงวัย และผู้ที่เป็นโรคประจำตัว เช่น โรคปอด โรคหัวใจ หอบหืด ถุงลมโป่งพอง แพทย์จึงมีวิธีรับมือโรคที่อาจเกิดขึ้น และวิธีดูแลตัวเองให้แข็งแรงได้ ไม่กลัวโรค
โรคที่อาจจะเกิดได้บ่อย
1. โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เกิดได้จากทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย
- อาการ เริ่มจากหวัดทั่วไปมัก มีไข้ น้ำมูก ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ หากอาการไอรุนแรง อาจมีการติดเชื้อทางเดินหายใจที่บริเวณหลอดลม หากมีน้ำมูกข้น ปวดจมูก และระหว่างคิ้ว ได้กลิ่นลดลง มีกลิ่นเหม็น(ไซนัสอักเสบ) , อาการปอดอักเสบ หรือปอดอาจมีติดเชื้อ มักมีอาการเหนื่อย เจ็บหน้าอก
- วิธีการป้องกัน ดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงไปที่ชุมชน หรือหากต้องใกล้ชิดผู้ป่วยควรใส่หน้ากากอนามัย รวมทั้งผู้ป่วยเองก็ควรใส่หน้ากากอนามัย เพื่อลดการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น
เมื่อไหร่ควรมาพบแพทย์ สังเกตอาการตัวเองภายใน 1-2 วัน หากมีความรุนแรงของอาการมากขึ้น หรือมีอาการหอบ เหนื่อย ซึมลง ทานข้าวไม่ได้ จำเป็นต้องมาพบแพทย์ทันที
2.โรคภูมิแพ้ หอบหืด
หรือคนที่มีโรคทางเดินหายใจอยู่ก่อน เช่น ถุงลมโป่งพอง หากอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลันอาจทำให้ตัวโรคกำเริบได้
- อาการภูมิแพ้ คล้ายๆ กับหวัด แต่มักไม่มีไข้ มีน้ำมูกและเสมหะมีลักษณะใส เจ็บหรือระคายเคืองคอเล็กน้อย ความรุนแรงของโรคน้อยกว่ากลุ่มโรคติดเชื้อ หอบหืด หรือถุงลมโป่งพองกำเริบ อาจเริ่มจากใจ แน่นหน้าอก หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงดัง
- วิธีการป้องกัน ใช้ยาที่กิน หรือสูดพ่นอยู่ก่อนอนอย่างสม่ำเสมอ รักษาตามอาการ พักผ่อนให้เพียงพอ หากยังไม่ดีขึ้นควรมาพบแพทย์
3.อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ฝุ่นละออง “PM 2.5” อาจกลับมาอีกครั้ง
ฝุ่นพิษขนาดเล็ก ไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือที่เรียกว่า ฝุ่นละออง PM 2.5 เกิดขึ้นเมื่ออากาศนิ่ง ไม่ถ่ายเท ทำให้ฝุ่นสะสมอยู่ในอากาศจำนวนมาก “ฝุ่น” ยิ่งขนาดเล็กยิ่งอันตราย เพราะสามารถเข้าสู่ทางเดินหายใจ และปอดได้โดยตรง สามารถนำเชื้อโรค สารพิษ หรือแม้กระทั่งสารก่อนมะเร็งเข้าสู่ปอด โดยปัญหามลพิษทางอากาศอาจกลับมาอีกครั้ง หากสภาพอากาศยังไม่คงที่
สำหรับผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง ส่วนบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ไม่ควรทำกิจกรรมภายนอกอาคารเป็นเวลานาน หรือป้องกันโดยการสวมหน้ากากอนามัยชนิด N95 ที่สามารถป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ดีกว่าหน้ากากอนามัยทั่วไป
5 วิธีรับมือในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน
- เมื่ออากาศเย็นควรใส่เสื้อผ้าให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- คนที่มีโรคประจำตัว ควรทานยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมอาการของโรคเดิมให้ปกติ
ขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก โรงพยาบาลพญาไท