วัคซีนที่ควรฉีดในแต่ละปีตามช่วงอายุ ป้องกันความรุนแรงสารพัดโรค
การดูแลสุขภาพที่ดีคือการป้องกันโรคด้วยการฉีดวัคซีน แนะวัคซีนที่ควรฉีดในแต่ละช่วงอายุรับปี2567
อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือภูมิคุ้มกันร่างกายของเราเอง อย่าคิดว่า สุขภาพแข็งแรงตอนนี้แล้วจะไม่ป่วยอีก เพราะเชื้อโรคเองก็พัฒนาสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง การฉีดวัคซีนประจำปีหรือครบรอบตามกำหนดที่สมควรฉีดจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามและเป็นการป้องกันโรคที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันผลกระทบทางสุขภาพที่รุนแรงหรืออาจทำให้เสียชีวิตได้
วัคซีนสำหรับผู้ใหญ่ อายุตั้งแต่ 19 – 64 ปี ได้แก่
- วัคซีนป้องกันคอตีบและบาดทะยัก ควรรับการฉีดกระตุ้นทุก 10 ปีต่อเนื่องจากในวัยเด็ก
“วิตามิน” คนวัย 30+ ที่สุขภาพเริ่มแย่ เคล็ดลับฟื้นฟูให้สดชื่นลดอายุ!
การตรวจยีน Genetic Testing เจาะลึกDNA ป้องกันมะเร็งร้ายลุกลาม

เนื่องจากระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายจะมีการลดลงตามอายุที่มากขึ้น ฉะนั้นหากใครไม่เคยฉีดเลยตั้งแต่จำความได้ ควรเข้ารับการฉีดนะคะ
- วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี
ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2535 เป็นต้นมา เด็กทุกคนจะได้รับวัคซีนนี้ในช่วงแรกเกิด แต่ในผู้ที่เกิดก่อนปีพ.ศ. 2535 หากตรวจเลือดแล้วพบว่าไม่มีภูมิคุ้มกัน ก็ควรที่จะได้รับการฉีดวัคซีนนี้ เพราะร่างกายเราไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันโรคไวรัสตับอักเสบบีขึ้นมาเองได้ นอกจากผู้ที่เคยเป็นโรคนี้แบบเฉียบพลันมาก่อน และเมื่อหายจากโรค ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันที่สามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต แต่ในผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ตั้งแต่ยังเด็ก โอกาสที่เป็นโรคแล้วหายจะน้อย คือจะมีเชื้อนี้อยู่ในร่างกายไปตลอด เรียกว่าเป็นพาหะของโรคไวรัสตับอักเสบบี เนื้อเยื่อตับมีโอกาสจะถูกเชื้อไวรัสทำลาย โดยเฉพาะตอนที่ร่างกายอ่อนแอ และเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งตับ โดยปกติการให้วัคซีนนี้จะให้ทั้งหมด 3 เข็มในระยะเวลา 6 เดือน โดยทั่วไปแล้วไม่มีความจำเป็นต้องตรวจระดับภูมิคุ้มกันหลังรับวัคซีน และไม่จำเป็นต้องรับวัคซีนซ้ำอีก
- วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
โรคไข้หวัดใหญ่ ปัจจุบันระบาดรุนแรงมากขึ้น และโอกาสที่จะเป็นโรครุนแรง เช่น ปอดอักเสบ หรือเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ มีมากขึ้นถึงจะสัดส่วนน้อย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กหรือกลุ่มคนที่มีโรคภูมิต้านทานน้อย มีโอกาสที่จะทำให้เสียชีวิตได้ โดยปกติเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆทุกปี ข้อแนะนำสำหรับบุคคลทั่วไปคือ ควรรับวัคซีนนี้อย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาดและความรุนแรงของโรค
- วัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน (measles mumps rubella vaccine : MMR)
สำหรับวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ที่ไม่มีภูมิต้านทานต่อโรคหัด ได้แก่ ไม่เคยฉีดวัคซีน และไม่เคยเป็นโรคหัดมาในอดีตหรือตรวจไม่พบภูมิต้านทานต่อโรคหัด หรือในหญิงที่วางแผนจะมีบุตรและตรวจไม่พบภูมิต้านทานโรคหัดเยอรมัน หรือในกรณีผู้ที่เรียนระดับอุดมศึกษาสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคหัด หรือในขณะนั้นกำลังมีโรคหัดระบาด รวมทั้งนักเรียนที่ต้องเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ โดยแนะนำให้ฉีดวัคซีนนี้ 1 เข็ม และกระตุ้นอีก1 เข็มห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 4 สัปดาห์
- วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส HPV
ช่วยป้องกันเชื้อไวรัส HPV ซึ่งก่อโรคมะเร็งปากมดลูก ในกลุ่มผู้หญิงอายุตั้งแต่ 9 – 26 ปี ถือว่าเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากวัคซีนนี้ โดยกลุ่มที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธุ์จะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์สูงสุด ส่วนผู้หญิงที่มีอายุเกิน 26 ปีก็จะยังได้รับประโยชน์จากวัคซีนนี้ โดยควรปรึกษาสูตินรีแพทย์ก่อนการรับวัคซีน
ปีใหม่นี้! เริ่มต้นสุขภาพจิตที่ดี แนะสิ่งที่ควรทำให้ชีวิตดีกว่าเดิม
วัคซีนสำหรับผู้สูงอายุ
โดยทั่วไป เมื่ออายุย่างเข้า 65 ปี จะจัดว่าเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งภูมิต้านทานโรคตามธรรมชาติในร่างกายจะเริ่มลดลง ข้อแนะนำสำหรับวัคซีนที่จำเป็นในวัยนี้ ได้แก่
- ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันคอตีบและบาดทะยักทุก 10 ปี
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี เพราะในวัยผู้สูงอายุ ภูมิต้านทานโรคอาจน้อยลง หากเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ขึ้นมาก็มีโอกาสที่จะมีอาการของโรครุนแรงมากขึ้น
- วัคซีนป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัส (IPD) ซึ่งเป็นกลุ่มเชื้อแบคทีเรียซึ่งมีจำนวนหลายสายพันธุ์ ที่ก่อโรคปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และติดเชื้อในกระแสเลือด ถ้าโรคนี้เกิดขึ้นในผู้สูงอายุแล้วเป็นชนิดที่รุนแรงก็จะทำให้เสียชีวิตได้ ปัจจุบันมีข้อแนะนำให้ฉีดวัคซีนนี้ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป โดยแนะนำให้รับวัคซีน IPD ทั้งชนิด 13 และ 23 สายพันธุ์ เพียงชนิดละ 1 ครั้ง
สำหรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุขคำแนะนำในการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ยังต้องฉีดทุก 4 เดือนอยู่ แต่หลังจากนี้ไปที่คาดหวังว่าจะมีการฉีดวัคซีนเหมือนไข้หวัดใหญ่ คือ ปีละ 1 ครั้ง ตามความสมัครใจ
คำแนะนำในการฉีดวัคซีนต่างๆ ในปัจจุบันนี้ อาศัยข้อมูลจากในอดีตเป็นบทเรียน ว่าในสมัยก่อนเราต้องเจอกับโรคติดเชื้อร้ายแรงอะไรมาบ้าง มีอันตรายกับประชากรมากน้อยแค่ไหน กลุ่มแพทย์และกลุ่มนักวิจัยที่เกี่ยวข้องได้ช่วยกันทำงาน คิดค้น วิจัย และพัฒนาวัคซีนออกมาใช้ เพื่อประโยชน์ในการลดความสูญเสียจากกลุ่มโรคติดเชื้อต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันการพัฒนาเรื่องวัคซีนเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อร้ายแรงต่างๆก็ยังไม่หยุด โดยในปี 2559 นี้ มีโอกาสที่จะมีการนำวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออกมาใช้ในกลุ่มประชากรในประเทศที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อไข้เลือดออก ซึ่งรวมถึงในประเทศไทยด้วย เราจึงควรติดตามข้อมูลข่าวสารและหาโอกาสรับวัคซีนที่จำเป็นตามคำแนะนำ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายติดเชื้อต่างๆที่มีความสำคัญ หรือจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาหากต้องเป็นโรคเหล่านั้นขึ้นมาจริงๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช
หมอยงสรุป 10 ข้อวัคซีนโควิด19 กาลเวลาพิสูจน์วัคซีนสูตรไขว้
แพทย์แนะมะเร็งปากมดลูกป้องกันด้วยวัคซีน HPV และคัดครองปีละครั้ง